messager
check_circle บทบาทหน้าที่
บทบาทหน้าที่I
การมอบหมายงานและความรับผิดชอบของพนักงานเทศบาล พนักงานครูเทศบาล ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้าง เทศบาลตำบลท่าขนอน ******************************************************************************************************** อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบัน มาตรา 48 เตรส มาตรา 48 สัตตรส มาตรา 48 อัฏฐารส มาตรา48 เอกูนวีสติ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคล ส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 15 ประกอบมาตรา 23 และ ประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของเทศบาล ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2545 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับปัจจุบัน ข้อ 252 ในการกำหนดโครงสร้างส่วนราชการให้คำนึงถึงความต้องการและความเหมาะสมของเทศบาล โดยให้มีการแบ่งส่วนราชการ ดังต่อไปนี้ 1. สำนักปลัดเทศบาล 2. กองคลัง 3. กองช่าง 4. กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 5. กองการศึกษา ดังนั้น เพื่อให้การบริหารกิจการของเทศบาลตำบลท่าขนอน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ตามระเบียบ กฎหมาย ได้กำหนดให้มีความเหมาะสมกับภารกิจหน้าที่ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 48 เตรส แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึงปัจจุบันและตามความในข้อ 255,263,264,266,267,268 และ ข้อ 270 ถึงข้อ 273 แห่งประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน จึงขอแต่งตั้งรักษาราชการแทนฯ รักษาการในตำแหน่งฯ การแบ่งงานและมอบหมายหน้าที่การงานขึ้นใหม่ ดังต่อไปนี้ นางบุญทิพย์ ฐานวิเศษ ตำแหน่ง รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทน ปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-00-1101-001 มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ 1.1 มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในฐานะปลัดเทศบาล เป็นผู้บังคับบัญชา พนักงานเทศบาลและพนักงานจ้างของเทศบาลตำบลท่าขนอน รองจากนายกเทศมนตรีตำบลท่าขนอน ควบคุมหน่วยงานและปกครองผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา 1.2 รับผิดชอบเกี่ยวการควบคุมการปฏิบัติราชการประจำในเทศบาล กำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการของเทศบาล และลำดับความสำคัญของแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการในเทศบาลให้เป็นไปตามนโยบายของนายกเทศมนตรี รวมทั้งกำกับ เร่งรัด ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการของ สำนักปลัดเทศบาล กองคลัง กองช่าง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และกองการศึกษา 1.3 เป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานเทศบาลและพนักงานจ้างของเทศบาลตำบลท่าขนอนรองจากนายกเทศมนตรี 1.4 เรื่องที่กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับระบุให้เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดเทศบาล 1.5 เรื่องซึ่งตกลงกันไม่ได้ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ภายใต้บังคับบัญชา 1.6 เรื่องที่หัวหน้าส่วนราชการเห็นเป็นปัญหาและเสนอมาเพื่อรับคำวินิจฉัย 1.7 เรื่องที่นายกเทศมนตรีสั่งการโดยเฉพาะ 1.8 เรื่องที่หัวหน้าส่วนราชการต่าง เห็นสมควรเสนอเพื่อทราบ 1.9 เรื่องงานงบประมาณของเทศบาล 1.10 เป็นนายทะเบียนระบบทะเบียนบุคลากร ของเทศบาลตำบลท่าขนอน 1.11 เรื่องพิเศษอื่นใด 1.12 เข้าร่วมกิจกรรมส่วนรวมของเทศบาลตำบลท่าขนอน 1.13 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย นางบุญทิพย์ ฐานวิเศษ ตำแหน่ง รองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-00-1101-002 มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ 2.1 มีหน้าที่ปฏิบัติงานในฐานะรองปลัดเทศบาล รับผิดชอบงานการบริหารงานเทศบาลตามที่ได้รับมอบหมายจากปลัดเทศบาล ควบคุมหน่วยงานและปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา 2.2 เข้าร่วมกิจกรรมส่วนรวมของเทศบาลตำบลท่าขนอน 2.3 ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย สำนักปลัดเทศบาล นางสาวกัญจน์พร ทัพพ์เพ็ชร ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด (นักบริหารงานทั่วไป ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-2101-001 ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงานระดับกองในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก หรือในฐานะหัวหน้าฝ่าย ที่มีลักษณะงานเกี่ยวกับการวางแผน บริหารจัดการจัดระบบงาน อำนวยการ สั่งราชการ มอบหมาย กำกับ แนะนำ ตรวจสอบ ประเมินผลงาน ตัดสินใจแก้ปัญหาในงานของหน่วยงานที่ รับผิดชอบ ซึ่งมีลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบและคุณภาพของงานสูง และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ด้านแผนงาน 1.1 ร่วม วางแผน งานโครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานด้านงานบริหารทั่วไป งานสนับสนุน งานเลขานุการ งานนโยบายและแผน งานทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชน หรืองานราชการที่มิได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกอง หรือส่วนราชการใดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะ เพื่อเป็นแบบแผนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.2 ร่วมจัดทำแผนหรือโครงการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนและ โครงการต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นนโยบายแผนงานและโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการบริหารหรือความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้เกิดการนำเสนอแนวทางในการพัฒนาแผนงานหรือโครงการอื่นๆ ในอนาคตต่อไป 1.3 ร่วมติดตาม เร่งรัด การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนงาน โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน ตลอดจนประเมินผลและรายงานการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนดไว้ 1.4 ร่วมวางแนวทางการศึกษา วิเคราะห์และเสนอแนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานหรือ ระบบงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านงานนโยบายและแผน ด้านงานบริหารทั่วไป งานสนับสนุน งานเลขานุการ หรืองานราชการที่มิได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ของกองหรือส่วนราชการใดใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ บุคลากร และเวลา 1.5 ค้นคว้าประยุกต์เทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานในภารกิจของหน่วยงานในภาพรวมเพื่อนำมาปรับปรุงให้การปฏิบัติงาน ระบบงาน หรือกระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. ด้านบริหารงาน 2.1 ควบคุมดูแลการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ข้อบัญญัติงบประมาณเพิ่มเติมและการโอนเปลี่ยนระบบงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจตามกฎระเบียบและเวลาที่กำหนดไว้ 2.2 ศึกษา วิเคราะห์ เสนอแนะ และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อให้ได้แผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สอดรับกับนโยบายของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สภาเทศบาล หรือสภาตำบล รัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 2.3 ควบคุมดูแลการวิเคราะห์และจัดเตรียมข้อมูล เอกสาร และผลงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนโยบายแผนยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการ หรือแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การทำงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและความพึงพอใจสูงสุด 2.4 ควบคุมดูแลการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี ข้อบัญญัติงบประมาณเพิ่มเติมและการโอนเปลี่ยนระบบงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจตามกฎระเบียบและเวลาที่กำหนดไว้ 2.5 พิจารณาอนุมัติ อนุญาต การดำเนินการต่างๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์กำหนด 2.6 มอบหมาย ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไข และควบคุมดูแลการจัดการงานต่างๆหลายด้านของหน่วยงานสนับสนุน เช่น งานธุรการ งานรักษาความปลอดภัย งานจัดพิมพ์และ แจกจ่ายเอกสาร งานรวบรวมข้อมูลสถิติ งานแปลเอกสาร งานเตรียมเรื่องและเตรียมการสำหรับการประชุม งานบันทึกเรื่องเสนอที่ประชุม งานทำรายงานการประชุมและรายงานอื่นๆ งานติดต่อกับหน่วยงานและบุคคลต่างๆ งานติดตาม ผลงาน เป็นต้น เพื่อดูแลให้งานเป็นไปตามระเบียบอย่างถูกต้องทันเวลาและตรงตามความต้องการของผู้บริหารหรือหน่วยงานต่างๆ สูงสุด 2.7 มอบหมาย วิเคราะห์ ทำความเห็น เสนอแนะ และควบคุมดูแลงานนิติการ งานระเบียบและสัญญาเพื่อให้งานต่างๆ ดำเนินการไปอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และตามกฎระเบียบที่กำหนด ไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.8 มอบหมาย วิเคราะห์ ทำความเห็น เสนอแนะ และควบคุมดูแลงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อบริหารงานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถสรรหา บริหาร พัฒนาและใช้ ประโยชน์จากบุคลากรในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.9 มอบหมาย วิเคราะห์ ทำความเห็น เสนอแนะ และควบคุมดูแลงานนโยบายและแผนหรืองานจัดระบบงาน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีแนวทางในการปฏิบัติงานที่มีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.10 มอบหมาย วิเคราะห์ ทำความเห็น เสนอแนะ และควบคุมดูแลงานประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการสื่อสารภายในที่ครอบคลุมทั่วถึงชัดเจน และเกิดการสื่อสารภายนอกที่สร้างความเข้าใจและภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชนในท้องถิ่น 2.11 มอบหมาย วิเคราะห์ ทำความเห็น เสนอแนะและควบคุมดูแลงานทะเบียนราษฎร์ต่างๆ เช่น การแจ้งเกิด การแจ้งตาย การแจ้งย้ายที่อยู่ การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น เพื่ออำนวยการให้บริการประชาชนเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.12 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ เอกชน และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความร่วมมือ หรือบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการ 2.13 ชี้แจงข้อเท็จจริง พิจารณาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะในที่ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่าง ๆ ที่ได้รับแต่งตั้งหรือเวทีเจรจาต่าง ๆ 3. ด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล 3.1 จัดระบบงานและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้สอดคล้องกับภารกิจ เพื่อให้การปฏิบัติราชการเกิดประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า 3.2 ติดตามและประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของทรัพยากรและงบประมาณของหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย พันธกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายของส่วนราชการ 4.2 ร่วมหรือวางแผนและประสานกิจกรรมให้มีการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งด้านงบประมาณ อาคารสถานที่และอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และบรรลุเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด โดยอาจพิจารณานำงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมาดำเนินการและใช้จ่ายร่วมกัน 4.3 ติดตามตรวจสอบการใช้ทรัพยากรและงบประมาณเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพความคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด ซึ่งสำนักปลัดเทศบาลแบ่งส่วนราชการภายในออกเป็น 7 งานดังต่อไปนี้ งานธุรการ งานการเจ้าหน้าที่ งานทะเบียนราษฎรและบัตรฯ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยงานวิเคราะห์นโยบายและแผน งานประชาสัมพันธ์ งานกฎหมายและคดี 1.งานธุรการ นายเอกชัย แซ่ภู่ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-4101-002 เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ปฏิบัติงานธุรการ งานสารบรรณ งานบริหารทั่วไป ได้แก่ การรับ – ส่งหนังสือ การลงทะเบียนรับหนังสือ การร่างโต้ตอบหนังสือราชการ การบันทึกข้อมูล การจัดทําฎีกาเบิกจ่ายเงิน และการพิมพ์เอกสารจดหมาย และหนังสือราชการต่างๆ การเตรียมการประชุม เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้งานต่างๆ เป็นไปด้วยความสะดวกเรียบร้อยตรงตามเป้าหมายมีหลักฐานตรวจสอบได้ 1.2 จัดเก็บเอกสาร หนังสือราชการ หลักฐานหนังสือ ตามระเบียบวิธีปฏิบัติเพื่อสะดวกต่อการค้นหาและเป็นหลักฐานทางราชการ 1.3 รวบรวมข้อมูล จัดเก็บข้อมูลสถิติ เช่น สมุดลงเวลาปฏิบัติราชการ รายชื่อ พนักงาน ข้อมูลจํานวนบุคลากร เอกสารอื่น ๆ ที่เป็นหลักฐานตามระเบียบวิธีการปฏิบัติเพื่อสะดวกต่อการค้นหาสําหรับใช้เป็นหลักฐานตรวจสอบได้ 1.4 ตรวจสอบ และสอบทานความถูกต้องของเอกสาร หนังสือ และจดหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน เพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารทั้งหมดมีความถูกต้อง ครบถ้วน และปราศจากข้อผิดพลาด 1.5 จัดทําและแจกจ่าย ข้อมูล เอกสาร หลักฐาน หนังสือเวียน หรือระเบียบวิธีปฏิบัติ เพื่อแจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับทราบ หรือดําเนินการต่างๆ ต่อไป 1.6 ดําเนินการเกี่ยวกับพัสดุ ครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และอาคารสถานที่ของหน่วยงาน เช่น การจัดเก็บรักษา การเบิกจ่ายพัสดุครุภัณฑ์ การจัดทําทะเบียนพัสดุครุภัณฑ์ การดูแลรักษายานพาหนะและสถานที่ เพื่อให้การดําเนินงานด้านพัสดุครุภัณฑ์ ยานพาหนะ และอาคารสถานที่เป็นไปอย่างถูกต้อง และมีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ 1.7 การรวบรวมรายงานผลการปฏิบัติงาน เช่น เอกสารตรวจรับรองมาตรฐาน (ธรรมาภิบาล) และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจ เพื่อนําไปใช้ปรับปรุงการปฏิบัติงาน 1.8 จัดเตรียมการประชุม บันทึกการประชุม และจัดทำรายงานการประชุมเพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีหลักฐานในการประชุม 1.9 จัดเตรียม และดำเนินการผลิตเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม การฝึกอบรมสัมมนานิทรรศการ และโครงการต่างๆ เพื่อให้เอกสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน และพร้อมใช้ในการดําเนินงานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ 1.10 ปฏิบัติงานศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เช่น จัดเตรียมเอกสารเพื่อเปิดเผยตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้ผู้ที่ต้องการข้อมูลข่าวสารรับทราบข้อมูลข่าวสาร 1.11 อํานวยความสะดวก ติดต่อ และประสานงานกับทุกส่วนงานของหน่วยงาน ในเรื่องการประชุมและการดําเนินงานต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามกําหนดเวลาและบรรลุวัตถุประสงค์ 1.12 ศึกษาและติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานสารบรรณ งานธุรการ งานบริหารทั่วไป งานการบริหารงานบุคคล งานพัสดุครุภัณฑ์ งานงบประมาณงานประชาสัมพันธ์ และงานประชุม เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการบริการ 2.1 ให้คำปรึกษาและแนะนําในเบื้องต้นแก่บุคลากร ประชาชน ผู้ที่มาติดต่อและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและสามารถนําไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง 2.2 ติดต่อประสานงานกับบุคคลภายในหน่วยงานเดียวกันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความราบรื่น 2.3 ให้บริการข้อมูลแก่ผู้มาติดต่อราชการ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่จะนําไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป 2.4 ผลิตเอกสารต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจของหน่วยงาน และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมาย เช่น 1. จัดทำฎีกาเบิก – จ่าย เงินงบประมาณ 2. บันทึกการประชุม และพิมพ์รายงานการประชุมฯ และรายงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 3. จัดทำแผนการใช้จ่ายเงินประจำไตรมาส และประจำปี 4. จัดทำแผนดำเนินงานประจำไตรมาส และประจำปี 5. จัดทำแผนการจัดหาพัสดุประจำไตรมาส และประจำปี 6. จัดทำแบบรายงานประเมินผลระบบควบคุมภายใน 7. จัดทำร่างเทศบัญญัติงบประมาณของสำนักปลัด 8. ปฏิบัติงานดูเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ระเบียบ กฎหมาย หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของสำนักปลัดเทศบาล 9. กิจกรรม ๕ ส ในเทศบาล 10.ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมายและมีลักษณะงานในความรับผิดชอบงานขับรถยนต์ นายพรศักดิ์ แก้วมุด พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ เป็นพนักงานขับรถยนต์ส่วนกลาง ยี่ห้อโตโยต้า ดับเบิ้ลแค็ป หมายเลขทะเบียน กค 8156 สุราษฎร์ธานี มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ส่วนกลาง 2. บันทึกการใช้รถยนต์ทุกครั้ง ตรวจสอบการบันทึกให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน 3. ติดตามการใช้รถในฐานะที่รถอยู่ในความรับผิดชอบ 4. จัดทำสมุดบันทึกการใช้รถ / ใบขออนุญาตใช้รถ 5. ตรวจเช็คสภาพตามระยะเวลาการใช้งานที่กำหนด และนำไปบำรุงรักษาให้ใช้การได้ตามปกติ 6. กรณีรถได้รับความเสียหายให้จัดทำบันทึกรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทันที 7. ดูแล/บำรุงรักษา/ตรวจเช็คสภาพให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา 8. ทำความสะอาดรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กรณีอยู่ในสภาพสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยเร็ว 9. แก้ไขข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สามารถใช้การได้ 10. ในเวลาราชการให้ประจำอยู่ที่ห้องกองช่าง หากมีภารกิจจำเป็นต้องออกไปนอกสำนักงานหรือว่างจากการขับรถและไปช่วยปฏิบัติราชการอื่น ให้ลงบันทึกการออกนอกสำนักงานไว้เป็นหลักฐานตามแบบในสมุดบันทึกการออกนอกสำนักงานทุกครั้ง 11. ในการออกไปปฏิบัติหน้าที่ขับรถ ก่อนเดินทางให้ลงบันทึกการออกไปปฏิบัติราชการในสมุดฯ ทุกครั้ง 12. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องในหน้าที่พนักงานขับรถตามที่เห็นสมควร และตามที่ได้รับมอบหมาย 13. ในขณะขับรถให้รักษากริยามารยาทให้สุภาพและปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด 14. ให้รายงานการปฏิบัติงาน/เสนอสมุดบันทึกการใช้รถ /เสนอใบขออนุญาตใช้รถ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง นายวรพจน์ เพชรศรี พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ เป็นพนักงานขับรถยนต์ส่วนกลาง ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ หมายเลขทะเบียน กม 1343 สุราษฎร์ธานี และ รถยนต์โดยสารส่วนกลาง 11 ที่นั่ง (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้าเวนจูรี่ หมายเลขทะเบียน นข 2587 สุราษฎร์ธานี มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ส่วนกลาง 2. บันทึกการใช้รถยนต์ทุกครั้ง ตรวจสอบการบันทึกให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ตามแบบ 3. ติดตามการใช้รถในฐานะที่รถอยู่ในความรับผิดชอบ 4. จัดทำสมุดบันทึกการใช้รถ/ใบขออนุญาตใช้รถ 5. ตรวจเช็คสภาพตามระยะเวลาการใช้งานที่กำหนด และนำไปบำรุงรักษาให้ใช้การได้ตามปกติ 6. กรณีรถได้รับความเสียหายให้จัดทำบันทึกรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทันที 7. ดูแล/บำรุงรักษา/ตรวจเช็คสภาพให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา 8. ทำความสะอาดรถอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กรณีอยู่ในสภาพสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยเร็ว 9. แก้ไขข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สามารถใช้การได้ 10. ในเวลาราชการให้ประจำอยู่ที่กองช่าง หากมีภารกิจจำเป็นต้องออกไปนอกสำนักงานหรือว่างจากการขับรถและไปช่วยปฏิบัติราชการอื่น ให้ลงบันทึกการออกนอกสำนักงานไว้เป็นหลักฐานตามแบบในสมุดบันทึกการออกนอกสำนักงานทุกครั้ง 11. ในการออกไปปฏิบัติหน้าที่ขับรถ ก่อนเดินทางให้ลงบันทึกการออกไปปฏิบัติราชการในสมุดฯ ทุกครั้ง 12. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องในหน้าที่พนักงานขับรถตามที่เห็นสมควร และตามที่ได้รับมอบหมาย 13. ในขณะขับรถให้รักษากริยามรรยาทให้สุภาพและปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด 14. ให้รายงานการปฏิบัติงาน/เสนอสมุดบันทึกการใช้รถ /เสนอใบขออนุญาตใช้รถ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หมายเหตุ กรณีพนักงานขับรถที่ได้รับมอบหมายไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงขอมอบหมายให้ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้าง ทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถยนต์ทั้ง 3 คัน ตามลำดับ ดังนี้ 1. นายพรศักดิ์ แก้วมุด ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ เป็นพนักงานขับรถ ลำดับที่ 1 2. นายธีระพงศ์ วิเชียร ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา เป็นพนักงานขับรถลำดับที่ 2 งานรักษาความสะอาดและงานทั่วไป 1. งานรักษาความสะอาด ดำเนินการจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอก เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่ดูแล รักษา ทำความสะอาดสำนักงาน บริเวณโดยรอบสำนักงาน อาคารอเนกประสงค์ ห้องน้ำ บริเวณโดยรอบ ให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย 2. ดูแล จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ ของใช้ วัสดุต่าง ๆ ในอาคารอเนกประสงค์ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมใช้งาน 2. งานทั่วไป มอบหมายให้ นางจารุวรรณ บรรณสิทธิ์ พนักงานจ้าง ตำแหน่ง นักการ เป็นผู้รับผิดชอบ ปฏิบัติหน้าที่รับ-ส่งหนังสือ เดินหนังสือในสำนักงานและนอกสถานที่และปฏิบัติงานอื่นใด ซึ่งมิใช่งานเกี่ยวกับการหนังสือหรือวิชาชีพ หรืองานอื่นใดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้ 1. ดูแล บริการ อำนวยความสะดวก เกี่ยวกับการจัดเลี้ยงในการจัดกิจกรรม โครงการ และการประชุมต่างๆ โดยให้ประสานเรื่องสิ่งของในการจัดเลี้ยงกับเจ้าของเรื่อง พร้อมจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้งานบ้านงานครัวและจัดเก็บหลังเสร็จสิ้น 2. บริการถ่ายเอกสาร 3. บริการส่งหนังสือให้กับหน่วยงานภายนอกตามที่ได้รับมอบหมาย และหนังสือส่งไปรษณีย์ประจำวัน ในเวลา 10.00 น. ทุกวัน โดยใช้พาหนะของเทศบาลและรับหนังสือจากสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอ 4. ทำอาหารในกรณีที่เทศบาลจัดเลี้ยงอาหาร 5. ดูแล บริการอาหารว่าง น้ำ เครื่องดื่ม ผู้มาติดต่อราชการในสำนักงาน 6. จัดเตรียมสิ่งของเครื่องใช้งานบ้านงานครัวในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ กรณีที่ต้องจัดเลี้ยงและจัดเก็บหลังเสร็จสิ้น 7. ดูแล ทำความสะอาด จัดเก็บวัสดุในห้องประกอบอาหาร 8. เตรียมความพร้อมในการบริการประชาชนในสำนักงาน 9. ผูกผ้าประดับกิจกรรมต่าง ๆ 10. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย 2.งานการเจ้าหน้าที่ นางสาวปรมาวตี หนูแก้ว ตำแหน่ง นักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-3101-001ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์ การวางแผนทรัพยากรบุคคล การสรรหา การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ และการแต่งตั้งการดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือน การควบคุมและส่งเสริมสมรรถภาพในการปฏิบัติราชการการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน จัดทำทะเบียนประวัติการรับราชการการดำเนินการเกี่ยวกับการออกจากราชการ เป็นต้น 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประกอบการวางระบบ การจัดทำมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.2 ศึกษา รวบรวม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลบุคคล จัดทำระบบสารสนเทศ ทะเบียนประวัติเพื่อให้เป็นปัจจุบันและประกอบการดําเนินงานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล 1.3 ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประกอบการกำหนดความต้องการและ ความจําเป็นในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การวางแผนทางก้าวหน้าในอาชีพ การจัดหลักสูตร การถ่ายทอด ความรู้ และการจัดสรรทุนการศึกษา รวมถึงการวางแผนและเสนอแนะนโยบายหรือยุทธศาสตร์การพัฒนา ทรัพยากรบุคคลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแผนการจัดสรรทุนการศึกษาและการฝึกอบรม 1.4 ศึกษา รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านจําแนกตำแหน่งและประเมินผลกําลังคน ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อไปประกอบการจัดทำโครงสร้างองค์กร โครงสร้างหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละ หน่วยงานและการแบ่งงานภายในให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และสอดคล้องตามวัตถุประสงค์ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น 1.5 ศึกษา รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์งาน เพื่อประกอบการกำหนดตำแหน่งและการวางแผนอัตรากําลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.6 ศึกษา รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านการจัดทำหน้าที่ความรับผิดชอบ ทักษะ สมรรถนะของตำแหน่งและการกำหนดระดับตำแหน่งให้สอดคล้องตามหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อความ ชัดเจนและเหมาะสม ในหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่งงาน 1.7 ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประกอบการวางหลักเกณฑ์การบริหาร ผลการปฏิบัติงานและการบริหารค่าตอบแทน 1.8 ศึกษา รวบรวม ตรวจสอบข้อมูล ถ้อยคํา ข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการดำเนินการทางวินัยการรักษาวินัยและจรรยา 1.9 ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพัฒนาระบบพิทักษ์คุณธรรม 1.10 ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและเลือกสรร ตั้งแต่การสอบคัดเลือก การคัดเลือกการสอบแข่งขัน การโอน การ ย้าย การเลื่อน ระดับ เป็นต้น เพื่อบรรจุและแต่งตั้งผู้มีความรู้ความสามารถให้ดำรงตำแหน่ง 1.11 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่ เกี่ยวข้องกับงานบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการวางแผน วางแผนการทำงานที่รับผิดชอบ ร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงาน หรือโครงการ เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้ เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด 3.2 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คำแนะนําชี้แจง ตอบปัญหาเบื้องต้นแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอกชน ข้าราชการ พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อสร้างความเข้าใจและสนับสนุนงานตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.2 ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อสนับสนุนภารกิจของบุคคลหรือหน่วยงานและใช้ประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์และ มาตรการต่างๆ 4.3 ดำเนินการจัดสวัสดิการและการส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน 3.งานทะเบียนราษฎรและบัตรฯ นายวิชัย นนท์เข็มพรม ตำแหน่ง นักจัดการงานทะเบียนและบัตรชำนาญการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-3104-001 ปฏิบัติงานการทะเบียนและบัตรประจําตัวประชาชน ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณา ทำความเห็น สรุปรายงาน เสนอแนะ และปฏิบัติงานตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องการอนุญาต การจดและจัดทำทะเบียนต่าง ๆ การจัดทำบัตรประจําตัวประชาชนและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ควบคุม ตรวจสอบ สรุปรายงาน เสนอแนะและดำเนินการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานทะเบียนและงานบัตรประจําตัวประชาชน เช่น การจัดทะเบียนราษฎร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนคนเกิด ทะเบียนคนตาย การรับแจ้งย้ายที่อยู่อาศัยเป็นต้น เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามกฎหมาย 1.2 พิจารณา อนุมัติการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทะเบียนตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแก่ประชาชนสูงสุด 1.3 วางแผนและจัดทํากิจกรรมการเลือกตั้งที่เกี่ยวข้องทั้งระดับประเทศหรือระดับท้องถิ่น เช่น การจัดทําทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การจัดทําบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น เพื่อให้การเลือกตั้งประสบความสําเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ 1.4 วางแผนและตรวจสอบเกี่ยวกับครุภัณฑ์และวัสดุสํานักงาน เพื่อเตรียมความพร้อม และอํานวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานทะเบียนราษฎร์และบัตรประชาชนต่างๆ 1.5 ให้คําปรึกษา แนะนําด้านการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา ตอบปัญหา และชี้แจงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานในหน้าที่ ในประเด็นที่มีความซับซ้อน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ระดับ รองลงมา 1.6 วิเคราะห์ปัญหาและใหัคําปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน เพื่อจัดหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมและคํานึงถึงบุคลากรและผู้รับบริการเป็นสําคัญ 1.7 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานทะเบียน เช่น การบริหารแบบเบ็ดเสร็จ เป็นต้น เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 2. ด้านการวางแผน 2.1 วางแผนหรือร่วมดําเนินการวางแผนการทํางานตามแผนงานหรือโครงการของหน่วยงานระดับสํานักหรือกอง และแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กําหนด 2.2 ร่วมวางแผนงาน ขั้นตอน แนวทางการดําเนินงานและกําหนดมาตรฐานระบบงาน ทะเบียนขององค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องตามเป้าหมายและนโยบายที่กําหนดไว้
บทบาทหน้าที่II
3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทํางานร่วมกันโดยมีบทบาทในการให้ความเห็นและคําแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือหน่วยงานอื่น เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนด 3.2 ให้ข้อคิดเห็นหรือคําแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คําแนะนํา ตอบปัญหาและชี้แจงเกี่ยวกับงานบริการเกี่ยวกับการทะเบียน บัตรประชาชนหรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องที่ตนมีความรับผิดชอบในระดับเบื้องต้นแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่ สนใจได้ทราบข้อมูลและความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ 4.2 จัดทําฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับงานทะเบียนต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน และใช้ประกอบการ พิจารณากําหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ มาตรการต่างๆ 4.3 จัดทําเอกสารวิชาการ ตํารา คู่มือทางวิชาการจัดการงานทะเบียนเพื่อเป็นคู่มือประกอบการการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในหน่วยงาน 4.งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพิพัศพล ศรีเพชรพูล ตำแหน่ง เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-4805-001 มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ปฏิบัติงานด้านการป้องกันระวังและบรรเทาสาธารณภัย ตรวจตรา รับแจ้งเหตุ เช่น อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย และภัยพิบัติต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและบรรเทาความเสียหาย ในด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 1.2 เฝ้าระวัง ตรวจตรา และฝึกซ้อมการรับมือกับเหตุร้ายในรูปแบบต่างๆ เพื่อดําเนินการป้องกันเชิงรุกก่อนเกิดเหตุการณ์ 1.3 จัดตรียม ดูแล บํารุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ ตลอดจนยานพาหนะต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานได้ทันทีวงทีและให้การดําเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 1.4 รวบรวม จัดทําข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน เช่น สํารวจแหล่งน้ำ เส้นทางจราจร แหล่งชุมชนต่างๆ บริเวณหรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดภัย เป็นต้น เพื่อจัดทําแผนป้องกันรับสถานการณ์และเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างสะดวกและทันต่อเหตุการณ์ 1.5 จัดทํารายงาน บันทึก และสถิติข้อมูลต่างๆ ในงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรายงานบังคับบัญชา 1.6 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.7 ปฏิบัติงาน และสนับสนุนงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัดบรรลุภารกิจที่กําหนดไว้ 2. ด้านการบริการ 2.1 ให้คําปรึกษาแนะนําในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง 2.2 เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้แก่หน่วยงานราชการ หรือเอกชน และประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และสามารถแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้นได้ด้วยตนเอง 2.3 ประสานงานกับหน่วยงานหรือส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่ออํานวยความสะดวกในการปฏิบัติงานและก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน 2.4 ให้บริการรับแจ้งเหตุสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง นายธีระพงษ์ วิเชียร ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา (ขับรถดับเพลิง) มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถยนต์ดับเพลิง ดูแล รักษา ซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลาพร้อมทั้งบันทึกการใช้รถยนต์ทุกครั้ง 2. ปฏิบัติหน้าที่ดูแล รักษา อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา 3. ปฏิบัติหน้าที่พนักงานดับเพลิง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ 4. ปฏิบัติหน้าที่เวรเตรียมพร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฟื้นฟู บูรณะ บำรุงขวัญ รักษา ทรัพย์สินของทางราชการและประชาชน 5. ปฏิบัติหน้าที่เวรวิทยุสื่อสาร รับ ส่ง ข่าวสาร ติดต่อประสานงาน รับแจ้งเหตุ 6. ปฏิบัติงานแจกจ่ายน้ำอุปโภค บริโภค 7. ดูแลรดน้ำต้นไม้ภายในเขตเทศบาล 8. ปฏิบัติงานฉีดล้างถนนในเขตเทศบาล 9. ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในเขตเทศบาล 10. ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 11. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย นายสมพงษ์ จันทร์ช่วง พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง พนักงานขับรถบรรทุกน้ำ มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถบรรทุกน้ำ ดูแล รักษา ซ่อมบำรุงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา พร้อมทั้งบันทึกการใช้รถยนต์ทุกครั้ง 2. ปฏิบัติหน้าที่ดูแล รักษา อุปกรณื เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้มีสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา 3. ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานดับเพลิง เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ 4. ปฏิบัติหน้าที่เวรเตรียมพร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฟื้นฟู บูรณะ บำรุงขวัญ รักษาทรัพย์สินของทางราชการและประชาชน 5. ปฏิบัติหน้าที่เวรวิทยุสื่อสาร รับส่ง ข่าวสาร ติดต่อประสานงาน รับแจ้งเหตุ 6. ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในเขตเทศบาล 7. ปฏิบัติงานแจกจ่ายน้ำอุปโภค บริโภค 8. ดูแลรดน้ำต้นไม้ภายในเขตเทศบาล 9. ปฏิบัติงานฉีดล้างถนนภายในเขตเทศบาล 10. ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 11. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย 5.งานวิเคราะห์นโยบายและแผน นางกิตติยา จิตอารี ตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-3103-001 ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์นโยบายและแผน ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ประสานแผน ประมวลแผน พิจารณา เสนอแนะ เพื่อประกอบการกำหนดโยบาย จัดทำแผนหรือโครงการ ติดตามประเมินผลการ ดําเนินงานตามแผนและโครงการต่างๆ และจัดทำเอกสารรายงานต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็น นโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหารการคมนาคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโครงการระดับจังหวัดหรือระดับประเทศแล้วแต่กรณี และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 รวบรวม วิเคราะห์ และประมวล นโยบายของรัฐบาล กระทรวง กรม และสถานการณ์เศรษฐกิจ การเมืองและสังคม เพื่อนํามาสรุปเสนอประกอบการกำหนดนโยบายและเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหาร 1.2 รวบรวมข้อมูล และศึกษาวิเคราะห์เบื้องต้น เกี่ยวกับภารกิจหลักและแผนกลยุทธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เพื่อวางแผนกำหนดแผนการ ปฏิบัติงานหรือโครงการให้สามารถบรรลุภารกิจที่กำหนดไว้ 1.3 วิเคราะห์นโยบายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือนโยบาย แผนงาน และโครงการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การบริหาร และเสนอข้อคิดเห็น เพื่อช่วยจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนพัฒนา 3 ปี แผนการปฏิบัติงาน แผนงาน โครงการ หรือ กิจกรรมได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ 1.4 สํารวจ รวบรวม และประมวลผลข้อมูลการดําเนินงานและประเด็นปัญหาทาง เศรษฐกิจ การเมืองและสังคม เพื่อเป็นข้อมูลสําหรับการจัดทําแผนงานหรือกําหนดยุทธศาสตร์ 1.5 ศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลและส่วนราชการต่างๆเพื่อประกอบการเสนอแนะแนวทางการประสานผลักดันยุทธศาสตร์และนโยบาย ตลอดจนการติดตามประเมินผลให้สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน 1.6 ประสานและรวบรวมข้อมูลที่จําเป็นต่างๆ เพื่อประกอบการจัดทํากระบวนงานของการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ (PMQA) และเครื่องมือวิเคราะห์ระดับความสําเร็จของการดําเนินงานจากการใช้จ่ายงบประมาณ (Performance Assessment Rating Tool-PART) 1.7 ประสานและรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนําไปจัดทําแผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map) หรือตัวชี้วัดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.8 ดำเนินการสำรวจ คำนวณโครงสร้าง และประมาณราคาค่าก่อสร้างซ่อมแซม รื้อย้าย สิ่งอำนวยความสะดวกในระบบขนส่งสาธารณะทางบก รวมทั้งประมาณการผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการก่อสร้างนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับและจัดหาแนวทางในการบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น 1.9 ตรวจสอบสัญญาของผู้รับเหมาเอกชนในการก่อสร้าง ซ่อมแซม ปรับปรุง รื้อถอนสิ่งก่อสร้างทางด้านการจราจรทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายที่กำหนดไว้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม 1.10 ศึกษา ค้นคว้า วิจัย ด้านการวิจัยจราจรที่ซับซ้อนและต้องใช้ความชำนาญเพื่อให้สามารถผลิตผลงานที่มีคุณภาพ และสามารถนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ได้ 1.11 ประสานงาน รวบรวมและประมวลผลข้อมูลทั้งจากผลการดําเนินงานที่ผ่านมาจากสภาวะภายนอก จากนโยบายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนา 3 ปีและแผนปฏิบัติการประจำปีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อพื้นที่ 2. ด้านการวางแผน 2.1 วางแผนการทํางานที่รับผิดชอบร่วมดําเนินการวางแผนการทํางานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กําหนด 2.2 วางแผนและร่วมดําเนินการในคณะกรรมการในระดับชุมชน องค์กร และกลุ่มจังหวัดในโครงการของหน่วยงานเพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ 2.3 วางแผนการดําเนินงานการจัดทําร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทํางานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนด 3.2 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 รวบรวมข้อมูล เพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการจัดทำแผนงาน โครงการ 4.2 ให้คำปรึกษา แนะนํา ตอบปัญหา และชี้แจงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับงานนโยบายและแผนเพื่อแก้ปัญหาในการปฏิบัติงาน 4.3 จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงาน ค้นคว้าวิจัย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการค้นคว้าวิจัยและให้บริการข้อมูลกับประชาชน หน่วยงานหรือส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง 6. งานประชาสัมพันธ์ นายวีระศักดิ์ ธุระพ่อค้า ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข่าวสารเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาอนุมัติประชาสัมพันธ์ และประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ทางหอกระจายข่าว นายเอกชัย แซ่ภู่ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เป็นผู้ช่วย มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบ สายงานนี้คลุมถึงตําแหน่งต่างๆ ที่ปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการสํารวจรวบรวม รับฟังความคิดเห็นของประชาชน การเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารและเอกสารความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อการดำเนินการประชาสัมพันธ์ การจัดปาฐกถา การจัดสัมมนา การจัดนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่ข่าวสารความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดําเนินงานหรือผลงานของหน่วยงานหรือของรัฐบาลหรือนโยบายของรัฐบาล การเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อเป็นสื่อเชื่อมโยงระหว่างรัฐบาลกับประชาชน การควบคุม การตรวจสอบการดําเนินงานกระจายเสียง ทั้งทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ให้เป็นไปตามแผนงานและนโยบายการประชาสัมพันธ์หรือตามกฎหมายและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ได้รับมอบหมาย มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 จัดกิจกรรมตามโครงการประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศ โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดําเนินงานประชาสัมพันธ์บรรลุผลสําเร็จตามเป้าหมาย 1.2 สํารวจความคิดเห็นของประชาชน และรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆ และสรุปผลเพื่อ เป็นข้อมูลในการดําเนินการประชาสัมพันธ์ 1.3 ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประกอบการวิจัย วางแผนการประชาสัมพันธ์และติดตามผล 1.4 จัดทําเอกสาร และผลิตบทความเพื่อการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ 1.5 ศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนะความคิดเห็นในการวางแผนงานการสื่อสารประชาสัมพันธ์ การกําหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการเผยแพร่ข่าวสารและการใช้สื่อต่างๆ เพื่อนําไปปรับปรุงงานการสื่อสารประชาสัมพันธ์ขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น 1.6 ศึกษา ค้นคว้า และรวบรวมข้อมูลทางวิชาการ รวมทั้งวิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ประกอบในการจัดทําแผนงาน โครงการ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของหน่วยงาน 1.7 ร่วมจัดทําแผนประชาสัมพันธ์ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การเผยแพร่และสื่อสารประชาสัมพันธ์สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดี 1.8 วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูล ข่าวสาร และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเขียนข่าว บทความและสารคดีเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีผลกระทบต่อภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.9 ออกแบบ และจัดกิจกรรม นิทรรศการ และโครงการต่างๆ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และแนะนําการบริการต่างๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เพื่อช่วยกระจายข้อมูล ข่าวสาร และประชาสัมพันธ์บริการต่างๆ ขององค์กรให้มีความทันสมัย ทันเหตุการณ์ และเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ 1.10 ออกแบบ จัดทํา และผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เอกสาร บทความ และรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นวารสารอุตสาหกรรม รายงานประจําปี และคู่มือต่างๆ เป็นต้น เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารทั้งภายในและภายนอกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.11 จัดทําเอกสาร รายงาน และสรุปผลการดําเนินงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม/โครงการ การใช้สื่อ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารในการพัฒนาและปรับปรุงระบบงานต่อไป 1.12 สํารวจประชามติตามเรื่องที่ได้รับมอบหมาย เพื่อนํามาวิเคราะห์ผลทางสถิติเพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารในอนาคต 1.13 สร้าง และรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับสื่อมวลชน นักข่าว และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มีความง่ายและสะดวกมากขึ้น 1.14 ร่วมดําเนินประเมินผลการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การใช้สื่อ การผลิตสื่อ และการจัดโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การใช้สื่อ การผลิตสื่อ และการจัด โครงการและกิจกรรมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย 1.15 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานประชาสัมพันธ์ เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการวางแผน ด้วยการวางแผนการทํางานที่รับผิดชอบ ร่วมดําเนินการวางแผนการทํางานของหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นหรือโครงการ เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กําหนด 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทํางานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนด 3.2 ประสานงานด้านประชาสัมพันธ์กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้การทํางานเป็นไปอย่างราบรื่นและเสร็จทันเวลาที่กําหนดไว้ 3.3 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้บริการข้อมูลการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 4.2 แนะนําให้คําปรึกษาด้านข้อมูลข่าวสารขององค์กรเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ
บทบาทหน้าที่III
7. งานกฎหมายและคดี นางสาวอรวิสา ไชยเดช ตำแหน่ง นิติกรปฏิบัติการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-01-3105-001 มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานกฎหมาย งานนิติกรรมและสัญญา งานเกี่ยวกับความผิดทางแพ่ง อาญา งานคดีปกครอง และงานคดีอื่นๆ งานวินัยและการดำเนินทางวิจัย รวมทั้งให้คำปรึกษาวินิจฉัย และตีความข้อกฎหมายงานรับเรื่องราวร้องทุกข์อันเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเทศบาล การดำเนินการสอบรับผิดทางละเมิด งานนิติกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง งานกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ของเทศบาลตำบลท่าขนอน ดังนี้ 1. งานตีความ วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย 2. งานจัดทำนิติกรรมสัญญา ตรวจสอบร่างสัญญา 3. งานระงับข้อพิพาท และเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ 4. งานให้ความเห็นทางวิชาการ ตอบปัญหาและชี้แจงเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับภารกิจเทศบาล และตอบข้อหารือปัญหาการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5. งานสอบสวนพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับวินัยพนักงานเทศบาล พนักงานจ้าง การร้องทุกข์หรืออุทธรณ์ 6. รายงานและติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันการทุจริตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น e-PlanNACC 7. งานประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) 8. งานสอบสวนข้อเท็จจริงต่างๆ และสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 9. งานเผยแพร่ความรู้และให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ประชาชน 10. งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย กองคลัง นางอรัญญา บางรักษ์ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคลัง (นักบริหารงานคลัง ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-04-2102-001 ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงานระดับกองในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก มีลักษณะงานเกี่ยวกับการวางแผน บริหารจัดการ อำนวยการ สั่งราชการ มอบหมาย กำกับ แนะนำตรวจสอบประเมินผลงาน ตัดสินใจแก้ไขปัญหาในงานด้านการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ ตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ด้านแผนงาน 1.1 กำหนด วิสัยทัศน์พันธกิจ ยุทธศาสตร์และเป้าหมายแนวทางด้านการคลัง เพื่อวางแผนและจัดทำแผนงานโครงการในการพัฒนาหน่วยงาน 1.2 ร่วม วางแผนงาน / โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานด้านงานการคลัง งานการเงินและบัญชีงานงบประมาณ งานการจัดเก็บรายได้และ งานการพัสดุ หรืองานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแบบแผนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องนโยบายและแผนกลยุทธ์ 1.3 ติดตาม เร่งรัด การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนงาน/โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน ตลอดจนประเมินผลและรายงานการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนดไว้ 1.4 ร่วมวางแนวทางการศึกษา วิเคราะห์รวบรวมข้อมูลสถิติด้านการเงิน การคลังและงบประมาณรวมทั้งเสนอแนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานหรือระบบงาน เพื่อให้มีการบูรณาการแผนงาน กิจกรรม ขั้นตอนสำคัญให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนด 1.5 ร่วมวางแผนในการจัดทำแผนที่ภาษีจัดหาพัสดุ การเบิกจ่ายเงินประจำไตรมาส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ให้มีพัสดุเพียงพอต่อการใช้งาน และการจ่ายเงินเป็นไปตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 1.6 ร่วมวางแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานหรือ ระบบงานของหน่วยงานที่สังกัด เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้ข้อจำกัด ทางด้านงบประมาณบุคลากร และเวลา 1.7 วางแผนการใช้จ่ายเงินสะสมและการจ่ายขาดเงินสะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับสถานะทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงตรวจสอบการดำเนินการใช้จ่ายเงินงบกลาง เงินอุดหนุน เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและหนังสือสั่งการ 2. ด้านบริหารงาน 2.1 จัดระบบงาน และวิธีการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบ 2.2 มอบหมาย กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของหน่วยงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 2.3 พิจารณาอนุมัติอนุญาตการดำเนินการต่างๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด 2.4 จัดระบบการติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงาน ตลอดจนวิเคราะห์ผลดีผลกระทบ ปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การสนับสนุนหรือทำการปรับปรุงแก้ไข 2.5 ร่วมกำหนดรายจ่ายของหน่วยงานเพื่อให้เกิดการประหยัดและคล่องตัวในการ ปฏิบัติงานโดยทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.6 ควบคุม ดูแล ตรวจ สอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ วิเคราะห์ทำความเห็นและตรวจสอบงานการคลังหลายด้าน เช่น งานการคลัง งานการเงินและบัญชีงานการจัดเก็บรายได้งานรวบรวม ข้อมูลสถิติและวิเคราะห์งบประมาณ งานพัสดุ งานจัดการเงินกู้ งานรับรองสิทธิงานเบิกเงินงบประมาณ งานควบคุมการเบิกจ่าย งานการเก็บรักษาทรัพย์สินที่มีค่าและหลักฐานแทนตัวเงิน เป็นต้น เพื่อควบคุมการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพถูกต้องและเป็นไปตามกฎระเบียบสูงสุด 2.7 ควบคุมดูแล ตรวจสอบและจัดทำรายงานการเงินการบัญชีต่างๆ รายงานการปฏิบัติงาน รายงานประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณ หรือรายงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้อย่างตรงเวลา 2.8 ควบคุมดูแลการดำเนินการให้มีการชำระภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างทั่วถึง เพื่อให้สามารถเก็บรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.9 ตรวจสอบ การเบิกจ่าย วัสดุครุภัณฑ์การจัดซื้อและการจัดจ้างเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.10 ควบคุมและตรวจจ่ายเงินตามฎีกา หรือควบคุมการขอเบิกเงิน การนำส่งเงินและการนำส่งเงินไปสำรองจ่าย เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องและเหมาะสมมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.11 วิเคราะห์และเสนอข้อมูล ทางด้านการคลัง การเงิน การบัญชีและการงบประมาณเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.12 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ เอกชน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือหรือบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน 2.13 ตอบปัญหา ชี้แจงและดำเนินการเป็นกรรมการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เช่น เป็นกรรมการรักษาเงิน เป็นกรรมการตรวจการจ้าง เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุฯลฯ เป็นต้น เพื่อควบคุมให้ภารกิจดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. ด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล 3.1 จัดระบบงานและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้สอดคล้องกับภารกิจ ปริมาณงานและงบประมาณเพื่อให้ปฏิบัติราชการเกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า 3.2 ติดตามและประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานและบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 3.3 ให้คำปรึกษาแนะนำ ปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชาให้มีความสามารถและสมรรถนะที่เหมาะสมกับงานที่ปฏิบัติ 3.4 จัดรูปแบบและวางแนวทางการปฏิบัติราชการของบุคลากรในหน่วยงานให้มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นต่อการปฏิบัติงาน โดยกำหนดหรือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ที่มีลักษณะงานสอดคล้องหรือเกื้อกูลกันสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ทุกตำแหน่ง เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความคล่องตัวและมีความต่อเนื่อง 3.5 สอนงานพัฒนาการปฏิบัติงาน ฝึกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่กำกับให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์แก่หน่วยงานอย่างยั่งยืน 4. ด้านบริหารทรัพยากรและงบประมาณ 4.1 กำหนดนโยบายและวางแผนการใช้ทรัพยากรและงบประมาณของหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย พันธกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.2 ติดตาม ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรและงบประมาณ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 4.3 ควบคุม ติดตาม ตรวจสอบ การดำเนินการเกี่ยวกับงบประมาณ การเงิน การคลัง และวัสดุ ครุภัณฑ์ เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด 4.4 ร่วมหรือวางแผนและประสานกิจกรรมให้มีการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งด้านงบประมาณ อาคารสถานที่และอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และบรรลุเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด โดยอาจพิจารณานำงบประมาณที่ได้รับ จัดสรรมาดำเนินการและใช้จ่ายร่วมกัน 4.5 ร่วมหรือบริหารและกำหนดแนวทางการจัดสรรและการใช้ทรัพยากรหรืองบประมาณตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด กองคลังแบ่งส่วนราชการภายในออกเป็น 4 งาน ประกอบด้วย งานการเงินและบัญชีงานจัดเก็บและ พัฒนารายได้ งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน งานพัสดุและทรัพย์สิน
บทบาทหน้าที่IV
1.งานการเงินและบัญชี นางสาวจิราภร ไชยณรงค์ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-04-4201-001 ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้างาน โดยต้อง กํากับ แนะนํา ตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ร่วมปฏิบัติงาน โดยใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชํานาญงานด้านการเงินและบัญชีปฏิบัติงานที่ต้องตัดสินใจหรือแก้ปัญหาและปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ปฏิบัติงานตรวจสอบและควบคุมเอกสารทางการเงินและบัญชีที่ต้องใช้ความชํานาญ เพื่อช่วยให้ระบบงานเป็นไปอย่างสะดวกและถูกต้อง 1.2 ปฏิบัติงานวางแผน ประเมินผลงานด้านการเงินและบัญชี เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ ตรงตามวัตถุประสงค์ 1.3 จัดทําเอกสารและรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านบัญชี การเงิน และงบประมาณของหน่วยงาน เช่นรายงานทางบัญชี รายงานงบการเงิน รายงานการเบิกจ่าย และรายงานสรุปเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณรายจ่ายของแต่ละหน่วยงาน เป็นต้น เพื่อให้ได้เอกสารและรายงานที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน ในการนําเสนอต่อผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาต่อไป 1.4 จัดทําทะเบียนคุมต่างๆ เช่น ทะเบียนคุมการใช้จ่ายเงินทั่วไป ทะเบียนคุมการใช้ จ่ายเงินนอกงบประมาณ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการปฏิบัติงาน และสอดคล้องตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.5 พิจารณาตั้งงบประมาณหมวดที่ไม่มีปัญหา เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าล่วงเวลา ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ เป็นต้น เพื่อให้การตั้งงบประมาณเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบที่กำหนดไว้ และแล้วเสร็จตามเวลา 1.6 ควบคุม และดูแลการดําเนินการรับ - จ่ายเงิน ตามหลักฐานการรับจ่ายเงิน เพื่อให้การดําเนินงานด้านการรับ-จ่ายเงิน เป็นไปอย่างสะดวก ถูกต้อง และครบถ้วน 1.7 ควบคุม และดูแลการจัดเก็บข้อมูล สถิติ เอกสาร ใบสําคัญ และรายงานทางการเงินและบัญชีต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการค้นหาและเป็นหลักฐานสําคัญในการอ้างอิงการดําเนินการต่างๆ ทางการเงินและบัญชี 1.8 ศึกษา วิเคราะห์ และเสนอความคิดเห็น เกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติด้านการเงิน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงาน 1.9 ถ่ายทอดความรู้ด้านการเงินและบัญชีแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา เช่น ให้คําปรึกษา แนะนําในการปฏิบัติงาน วางโครงการกําหนดหลักสูตรและฝึกอบรม จัดทําคู่มือประจําสําหรับการ ฝึกอบรม และวิธีใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกต้อง เป็นต้น เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานและข้อกําหนด 2. ด้านการกำกับดูแล 2.1 ควบคุม กํากับดูแล ตรวจสอบการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชี เพื่อให้การดําเนินงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นไปตามเป้าหมายที่กําหนด 2.2 วางแผน ประเมินผลและแก้ไขปัญหาขัดข้องในการปฏิบัติงานด้านการเงินและบัญชีในหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 3. ด้านการการบริการ 3.1 ให้คําแนะนํา ตอบปัญหา ชี้แจงเกี่ยวกับงานการเงินและบัญชี ที่มีความซับซ้อนแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อถ่ายทอดความรู้ความชํานาญแก่ผู้ที่สนใจ 3.2 ประสานงานในระดับกองหรือหน่วยงานที่สูงกว่า กับหน่วยงานราชการ เอกชน หรือ ประชาชนทั่วไป เพื่อขอความช่วยเหลือและความร่วมมือในงานการเงินและบัญชี และแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์ต่อการทํางานของหน่วยงาน 2. งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน นางรุ่งทิวา กองแก้ว ตำแหน่ง นักวิชาการจัดเก็บ รายได้ชำนาญการ เลขที่ ตำแหน่ง 67-2-04-3203-001 มีหน้าที่รับผิดชอบดังต่อไปนี้ ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีอากร ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และรายได้อื่น ๆ โดยปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง เช่น พิจารณาคำร้อง หรือเรื่องราวอื่นๆ ในการจัดเก็บภาษีอากร ซึ่งได้แก่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตควบคุมการแต่งผม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตั้งตลาดเอกชน ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำการโฆษณาและใช้เครื่องขยายเสียง ค่าธรรมเนียมเก็บขยะมูลฝอย ค่าธรรมเนียมขนสิ่งปฏิกูล ค่าธรรมเนียมควบคุมการก่อสร้างอาคาร ค่าธรรมเนียมรับรองสำเนาทะเบียนราษฎร์ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ตามเทศบัญญัติ ค่าปรับผู้ละเมิดกฎหมายและเทศบัญญัติ ค่าอากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมโรงฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมโรงพักสัตว์ ค่าเช่าตลาดสด ค่าเช่าแผงลอย ค่าที่วางขายของในที่สาธารณะ ดอกเบี้ยเงินฝากกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาลและเงินฝากธนาคาร เป็นต้น รับเงินหรือควบคุมการรับเงินโดยใกล้ชิด ควบคุมหรือจัดทำทะเบียนต่างๆ เก็บรักษาหรือค้นหาเอกสารหลักและเรื่องของผู้เสียภาษีอากร ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น สอดส่องตรวจตราเร่งรัดภาษีอากร ค่าธรรมเนียมต่างๆ และรายได้อื่นค้างชำระ ควบคุมหรือดำเนินงานเกี่ยวกับการรวบรวมข่อมูล เพื่อจัดทำรายงานและปฏิบัติหน่าที่ที่เกี่ยวข้องในฐานะหัวหน้าหน่วยงาน นอกจากอาจปฏิบัติงานดังกล่าวข้างต้นบ้างแล้ว ยังทำหน้าที่ติดต่อประสานงาน ควบคุม ตรวจสอบ และให้คำปรึกษาแนะนำและแก้ปัญหาขัดข้องในการปฏิบัติงานในหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วย ลักษณะงานที่ปฏิบัติ 1. พิจารณาแบบแสดงรายการ คำร้อง คำขอ คำอุทธรณ์ หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์หรือรายการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มประเมินภาษี 2. ตรวจแบบแสดงรายการและเอกสารแนบเรื่อง 3. ตรวจรายละเอียดต่าง ๆ คำนวณภาษี ค่าปรับ เงินเพิ่ม แจ้งผลการประเมินคำชี้แจงการอุทธรณ์ในเบื้องต้น 4. จัดเก็บและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต ค่าเช่า ต่าง ๆ เช่นภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีป้าย ฯลฯ 5. จัดทำทะเบียนต่าง ๆ เก็บรักษา ค้นหาเอกสารและเรื่องของผู้เสียภาษี 6. สอดส่อง ตรวจตราเร่งรัดภาษี ค่าธรรมเนียม รายได้ต่าง ๆ 7. รวบรวมข้อมูลในการจัดทำรายงาน โดยมี นายเมธา รัชชะ ตำแหน่ง นายช่างศิลป์ชำนาญงาน สังกัดกองช่าง เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-4708-001 เป็นผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานภาคสนาม มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ 1. คัดลอกข้อมูลที่ดิน 2. ปรับข้อมูลแผนที่ภาษีโรงเรือนและที่ดิน , ภาษีบำรุงท้องที่ 3. สำรวจตรวจสอบข้อมูลภาคสนาม 4. ตรวจสอบรหัสประจำแปลงที่ดินรหัสชื่อเจ้าของทรัพย์สิน และรหัสชื่อผู้ชำระภาษี (ผท. ๔,๕) 5. จัดทำรายงานเสนองานทะเบียนทรัพย์สิน และงานบริการข้อมูล 6. จัดเก็บ และบำรุงรักษาแผนที่ภาษี 7. ปรับข้อมูลในทะเบียนทรัพย์สินและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (ผท.๑ ,๒ ,๓ ,๔ ,๕ ,๖ ,๑๑ ,๑๒ ,๑๗) 8. จัดเก็บและดูแลรักษาทะเบียนทรัพย์สิน และเอกสารข้อมูลต่างๆ 9. งานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา 3.งานจัดเก็บและพัฒนารายได้ นางรุ่งทิวา กองแก้ว ตำแหน่งนักวิชาการจัดเก็บ รายได้ชำนาญการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-04-3203-001 ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานวิชาการภาษี การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ และรายได้อื่นๆ ภายใต้การกํากับ แนะนํา ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้าน ต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ช่วยรวบรวมข้อมูล ศึกษา วิเคราะห์ เกี่ยวกับการปกครองเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจเบื้องต้น เพื่อนําข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบการวางมาตรการ หรือแนวทางการจัดเก็บ หรือปรับปรุงอัตราภาษี ค่าธรรมเนียมและรายไดอื่นๆให้มีความเหมาะสม 1.2 รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆของรัฐและ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ทราบว่าการเก็บภาษีค่าธรรมเนียมหรือรายได้อื่นๆ สามารถทําได้จํานวนเท่าไร อันจะนําไปสู่การคาดประมาณการรายได้และรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปีงบประมาณถัดไปได้ 1.3 ร่วมสํารวจพื้นที่กับกองช่าง กองสาธารณสุขและส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลของผู้ประกอบกิจการหรือผู้ที่อยู่ในข่ายต้องชําระภาษีหรือค่าธรรมเนียมประเภทต่าง ๆ และติดตามจัดทําหนังสือเตือนผู้ประกอบการในข่ายชําระภาษีหรือค่าธรรมเนียมมาชําระเพื่อแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบ 1.4 จัดเก็บและออกใบเสร็จ ภรด., ภป., ภบท., ใบเสร็จทั่วไปฯ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับเงินของหน่วยงาน พร้อมเร่งรัดติดตามลูกหนี้และผู้ที่อยู่ในข่ายการชําระภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อติดตามลูกหนี้ค้างชําระให้มาชําระภาษีให้ครบถ้วนรวมถึงรับและตรวจแบบแสดงรายการทรัพย์สินและเสนอต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อใช้ในการประเมินและคำนวณภาษี 1.5 จัดทำรายงานเกี่ยวกับรายได้และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานจัดเก็บเพื่อพร้อมที่จะปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง ทันสมัย และใช้เป็นข้อมูลทางสถิติในการประมวลผลจากจัดเก็บรายได้ 1.6 รวบรวมข้อมูลที่ออกสํารวจลงในข้อมูลแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สินเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการนํามาประกอบการจัดเก็บรายได้ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน 1.7 ควบคุม การจัด ทําคําสั่ง ประกาศเกี่ยวกับทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมายื่นแบบชําระภาษีตรงตามกําหนดเวลาและให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงจัดทํา รวบรวม ข้อมูลส่งงานนิติการในการติดตามลูกหนี้ค้างชําระเพื่อดําเนินการตามกฎหมาย 1.8 ส่งเสริมจัดทําป้ายประชาสัมพันธ์ หนังสือประชาสัมพันธ์ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนรับรู้เกี่ยวกับการชําระภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ 1.9 จัดทําระบบฐานข้อมูลและบันทึกข้อมูลทะเบียนทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ในข่ายชําระภาษีลงในระบบฐานข้อมูลเพื่อเป็นข้อมูลในการจัดเก็บภาษีและตรวจสอบได้รวดเร็วขึ้น 1.10 รับคําร้องเกี่ยวกับการพิจารณาอุทธรณ์ภาษีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ชําระภาษี และศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เพื่อใช้จัดเก็บภาษีอย่างถูกต้องโปร่งใสและเป็นธรรม 1.11 ช่วยควบคุมการจัดเก็บภาษีอากรซึ่งได้แก่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบํารุงท้องที่ ภาษีป้ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตควบคุมกิจการค้า ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตควบคุมแผงลอย ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตควบคุมการแต่งผม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตการทําน้ำแข็งเพื่อการค้า ค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตตั้งตลาดเอกชนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทําการโฆษณาและใช้เครื่องขยายเสียง ค่าธรรมเนียมตรวจรักษาโรค ค่าธรรมเนียมเก็บขยะมูลฝอย ค่าธรรมเนียมขนสิ่งปฏิกูล ค่าธรรมเนียมควบคุมการก่อสร้างอาคาร ค่าธรรมเนียมรับรองสําเนาทะเบียนราษฎร ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตอื่น ๆ ตามเทศบัญญัติ ค่าปรับผู้ละเมิดกฎหมายและเทศบัญญัติค่าอากรการฆ่าสัตว์ ค่าธรรมเนียมโรงพักสัตว์ ค่ารับจ้างฆ่าสัตว์ ค่าเช่าอาคารพาณิชย์ ค่าเช่าโรงมหรสพ ค่าเช่าตลาดสด ค่าเช่าแผงลอย ค่าที่วางขายของในสวนสาธารณะ ดอกเบี้ยเงินฝากกองทุนส่งเสริมกิจการเทศบาลและเงินฝากธนาคาร ค่าจําหน่ายเวชภัณฑ์ คําร้องต่าง ๆ ค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์การเช่า และค่าชดเชยต่างๆ
บทบาทหน้าที่V
2. ด้านการวางแผน 2.1 วางแผนการทํางานที่รับผิดชอบร่วมดําเนินการวางแผนการทํางานของหน่วยงานหรือโครงการเพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กําหนด 2.2 วางแผนการจัดเก็บรายได้ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อให้การจัดเก็บรายได้ครบถ้วนถูกต้องและเป็นธรรมแก่ประชาชน 2.3 วางแผนและร่วมดําเนินการในการสํารวจข้อมูลภาคสนาม เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บภาษีท้องถิ่นและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ 2.4 วางแผนและร่วมดําเนินการในการนําเทคโนโลยีสาระสนเทศมาใช้ในการให้บริการจัดเก็บรายได้เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้ชําระภาษี 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทํางานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนดไว้ 3.2 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลข้อเท็จจริงแก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 3.3 ประสานงานและให้คําแนะนํากับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ชําระภาษีเพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนดไว้ 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คําปรึกษา แนะนํา สนับสนุนในหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สามารถดําเนินการด้านภาษีอากรได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 4.2 ตอบปัญหาและชี้แจงข้อซักถามของประชาชนเกี่ยวกับงานจัดเก็บรายได้เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลความรู้ต่างๆและนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4.3 จัดทําระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มช่องทางในการรับชําระภาษีและจัดเก็บภาษีนอกพื้นที่เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียภาษี โดยมอบหมายให้ นางสาวลินดา รัชชะ พนักงานจ้างทั่วไป ตำแหน่ง คนงานทั่วไป มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่เก็บค่าขยะมูลฝอย 2. จัดเก็บค่าใบอนุญาตฆ่าสุกรและทำธรรมเนียมต่าง ๆ 3. ติดต่อประสานงานธนาคารและไปรษณีย์ 4. ลงเลขฎีกาและลงเลขหนังสือต่าง ๆ 5. ลงทะเบียนคุมผู้ชำระภาษี,ค่าขยะมูลฝอย 6. จดมาตรน้ำและเก็บค่าน้ำประปาของเทศบาล 7. นำส่งหนังสือให้กับหน่วยงานภายนอกตามที่ได้รับมอบหมาย 8. ให้บริการถ่ายเอกสารในสำนักงาน 9. ให้บริการน้ำดื่มแก่ผู้มาติดต่อราชการกับเทศบาล 10. ผูกผ้าประดับในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของเทศบาล 11. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย 4.งานพัสดุและทรัพย์สิน นางอรัญญา บางรักษ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองคลัง ช่วยปฏิบัติงานกองคลัง งานพัสดุและทรัพย์สินโดยมี นางรุ่งทิวา กองแก้ว ตำแหน่ง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ชำนาญการ เป็นผู้ช่วย มีหน้าที่รับผิดชอบและมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ศึกษา วิเคราะห์ การจัดทําคําขอ เพื่อกําหนดงบประมาณประจําปีในทุกหมวดรายจ่าย 1.2 วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลทางด้านงานพัสดุเพื่อจัดทําคู่มือการปฏิบัติงานพัสดุ 1.3 ประเมินและสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างแบบต่าง ๆ เช่น การตกลงราคา การสอบราคาประกวดราคาวิธีพิเศษ และวิธีกรณีพิเศษ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ 1.4 วิเคราะห์และจัดทํารายละเอียดบัญชี หรือทะเบียนคุมทรัพย์สิน เกี่ยวกับคุณลักษณะเฉพาะของวัสดุ เพื่อให้การดําเนินงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 1.5 ควบคุมการซ่อมแซมและดูแลรักษาพัสดุในครอบครองเพื่อให้มีสภาพที่พร้อมใช้งาน 1.6 ควบคุมการจําหน่ายพัสดุเมื่อชํารุดหรือเสื่อมสภาพ หรือไม่จําเป็นในการใช้งานทางราชการอีกต่อไปเพื่อให้พัสดุเกิดประโยชน์ให้แก่ทางราชการได้มากที่สุด 1.7 ถ่ายทอดความรู้ด้านงานพัสดุแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา เช่น ให้คําแนะนําในการปฏิบัติงานวางโครงการกําหนดหลักสูตรและฝึกอบรม จัดทําคู่มือประจําสําหรับการฝึกอบรมและวิธีใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกต้อง เป็นต้น เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานและข้อกําหนด 1.8 ควบคุม และดูแลการดําเนินการจัดซื้อ การจัดจ้าง การจ้างซ่อมแซม และการบํารุงรักษาพัสดุครุภัณฑ์ทุกประเภทแก่เจ้าหน้าที่และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การจัดซื้อและจัดจ้างถูกต้องตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุที่กําหนดไว้ และได้พัสดุครุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสอดคล้องตามต้องการของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.9 ควบคุมและดูแลการจัดหาการลงประกาศ การติดต่อประสานงาน และการประชาสัมพันธ์การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุครุภัณฑ์ทุกประเภทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ช่องทางเทคโนโลยีสารสนเทศและเอกสารต่างๆเป็นต้น เพื่อให้บริษัทและห้างร้านต่างๆ ทราบข่าวและเข้ามาติดต่อรับการสอบราคาและประกวดราคาเป็นจํานวนมาก 1.10 วิเคราะห์ศึกษาและค้นคว้ารายละเอียดต่างๆ ของพัสดุเช่น วิวัฒนาการ คุณสมบัติ ระบบราคาการเสื่อมค่า การสึกหรอ ประโยชน์ใช้สอย ค่าบริการ อะไหล่ การบํารุงรักษา ความแข็งแรงทนทาน เป็นต้น เพื่อกําหนดมาตรฐานและคุณภาพของพัสดุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.11 ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ และติดตามการสอบราคา การประกวดราคา และการตกลงราคากับบริษัทและห้างร้านต่างๆเพื่อให้ได้บริษัทและห้างร้านต่างๆ ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและดีที่สุดได้ราคาที่ต่ำที่สุดและเน้นความโปร่งใสในการดําเนินงาน 1.12 ศึกษา วิเคราะห์ สรุปข้อมูลและประเมินผลการจัดซื้อและจัดจ้างแบบต่างๆ เพื่อนําไปจัดทําคู่มือการปฏิบัติงานพัสดุครุภัณฑ์และเป็นข้อมูลแก่ผู้บริหารในการพัฒนาและปรับปรุงขั้นตอนการดําเนินงานด้านพัสดุครุภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 1.13 ควบคุม ดูแลและตรวจสอบความถูกต้องของการจัดทํารายละเอียดของโครงการเอกสารและสัญญาต่างๆ เช่น สัญญาซื้อ สัญญาจ้าง หนังสือโต้ตอบและบันทึกเรื่องเกี่ยวกับงานพัสดุครุภัณฑ์และอาคารสถานที่เพื่อให้เกิดความถูกต้อง สมบูรณ์ และสามารถดําเนินการได้ตามขั้นตอนและระเบียบว่าด้วยการพัสดุที่กําหนดไว้ 1.14 ควบคุม และดูแลการจัดทําเอกสารและทะเบียนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดําเนินงานด้านพัสดุ เช่น ทะเบียนรายละเอียดพัสดุ ครุภัณฑ์ ทะเบียนคุมทรัพย์สิน เอกสารใบยืมทรัพย์สิน และเอกสารติดตามทวงคืนทรัพย์สิน เป็นต้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการปฏิบัติงานและมีหลักฐานเอกสารยืนยันในการติดตามและตรวจสอบด้านพัสดุ 1.15 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพัสดุครุภัณฑ์และอาคารสถานที่เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการวางแผน 2.1 วางแผนหรือร่วมดําเนินการวางแผนการทํางานตามแผนงานหรือโครงการของหน่วยงานระดับสํานักหรือกอง และแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ที่กําหนด 2.2 ร่วมวางแผนงาน ขั้นตอน และแนวทางการดําเนินด้านการจัดซื้อ การจัดจ้าง การจ้างซ่อมแซม และการบํารุงรักษาพัสดุครุภัณฑ์ เพื่อให้งานพัสดุครุภัณฑ์มีคุณภาพ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการกับบุคลากรและหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา 2.3 จัดทําแผนปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและหนังสือสั่งการ 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทํางานร่วมกันโดยมีบทบาทในการให้ความเห็นและคําแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือหน่วยงานอื่น เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กําหนดไว้ 3.2 ให้ข้อคิดเห็นหรือคําแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คําแนะนําตอบปัญหาและชี้แจงในเรื่องเกี่ยวกับงานพัสดุที่ตนมีความรับผิดชอบในระดับที่ซับซ้อนหรืออํานวยการถ่ายทอดฝึกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไปเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ทราบข้อมูลความรู้ต่าง ๆ และนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 4.2 จัดทําฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับงานพัสดุเพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานและใช้ประกอบการพิจารณากําหนดนโยบายแผนงาน หลักเกณฑ์ มาตรการต่าง ๆมอบหมายให้ นางรุ่งทิวา กองแก้ว ตำแหน่ง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ชำนาญการ มีหน้าที่รับผิดชอบดังนี้ 1 จัดพิมพ์เอกสารจัดซื้อจัดจ้าง 2 จัดทำเอกสารพร้อมส่งไปรษณีย์ 3. จัดทำรายงานการจัดซื้อจัดจ้างประจำเดือน 4. ลงทะเบียนควบคุมดูแลเบิกจ่ายวัสดุ-ครุภัณฑ์ส่วนกลางของเทศบาล 5. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย กองช่าง นายวีระชัย ปวีณพงศ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองช่าง (นักบริหารงานช่าง ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-2103-001 ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงานระดับกองหรือหัวหน้าฝ่ายที่มีลักษณะงานเกี่ยวกับการวางแผน บริหารจัดการ จัดระบบงาน อำนวยการ สั่งราชการ มอบหมาย กำกับ แนะนำ ตรวจสอบประเมินผลงาน ตัดสินใจ แก้ปัญหาในงานบริหารงานช่างและงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบและปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ด้านแผนงาน 1.1 ร่วมวางแผน งาน/โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานด้านงานช่าง งานวิศวกรรมหรืองานสถาปัตยกรรมที่สังกัด เพื่อเป็นแบบแผนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.2 กำหนดแนวทางของงาน/โครงการ รวมทั้งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานให้สอดคล้องนโยบายและแผนกลยุทธ์ของหน่วยงานที่สังกัด 1.3 ติดตาม เร่งรัด การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให่เป็นไปตามแผนงาน/โครงการหรือแผนการปฏิบัติงานตลอดจนประเมินผลและรายงานการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนดไว้ 2. ด้านการบริหาร 2.1 จัดระบบงาน และวิธีการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด 2.2 มอบหมาย กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของหน่วยงานเพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 2.3 พิจารณาอนุมัติ อนุญาตการดำเนินการต่างๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 2.4 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ เอกชน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเกิดความร่วมมือหรือบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการ 2.5 ชี้แจงข้อเท็จจริง พิจารณาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะในที่ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่างๆ ที่ได้รับแต่งตั้งหรือเวทีเจรจาต่างๆ เพื่อให้ภารกิจเป็นไปตามวัตถุประสงค์และรักษาผลประโยชน์ของราชการ 3. ด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล 3.1 จัดระบบงานและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้สอดคล้องกับภารกิจเพื่อให้ปฏิบัติราชการเกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า 3.2 ติดตามและประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชาเพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานและบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 3.3 ให้คำปรึกษาแนะนำปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชาให้มีความสามารถและสมรรถนะที่เหมาะสมงานที่ปฏิบัติ 4. ด้านบริหารทรัพยากรและงบประมาณ 4.1 วางแผนการใช้ทรัพยากรและงบประมาณของหน่วยงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย พันธกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4.2 ติดตาม ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรและงบประมาณ ให้เกิดประสิทธิภาพ ความ คุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 1.งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ปฏิบัติงานทางวิศวกรรมโยธา เกี่ยวกับการออกแบบและคํานวณด้านวิศวกรรมโยธา การค้นคว้าวิเคราะห์วิจัย ทดสอบ หาข้อมูลและสถิติต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการตรวจสอบวินิจฉัยงานวิศวกรรมโยธา การวางโครงการก่อสร้างในสาขา วิศวกรรมโยธา การให้คําปรึกษาแนะนําหรือตรวจสอบที่เกี่ยวกับงานในสาขาวิศวกรรมโยธา ซึ่งงานดังกล่าวข้างต้นนี้ต้องมีลักษณะ ขนาด หรืออยู่ในประเภทตามที่กําหนดไว้สําหรับผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพวิศวกรรม และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องมอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรในกองช่าง ดังนี้ นายวีระชัย ปวีณพงศ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองช่าง (นักบริหารงานช่าง ระดับต้น) ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานระดับต้น ที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทางวิชาการในการทํางาน ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวิศวกรรมโยธา ภายใต้การกํากับ แนะนํา ตรวจสอบ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 สํารวจ ศึกษา วางแผน วิเคราะห์ วิจัย ออกแบบ คํานวณ ประมาณราคา ควบคุมงานก่อสร้าง งานบํารุง งานบูรณะซ่อมแซม งานอํานวยความปลอดภัย งานผังเมืองหรืองานอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1.2 รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ เสนอปรับปรุงงานและสรุปข้อมูลเกี่ยวกับงานวิศวกรรมเครื่องกล เพื่อให้งานมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีตรวจสอบ แบบแปลน โครงสร้าง สภาพการใช้งานของอาคารหรือโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย 1.3 สํารวจ ออกแบบ เขียนแบบ และวางผังโครงการและโครงสร้างทางวิศวกรรมโยธาต่างๆ เช่นอาคาร ถนน สะพาน ชลประทาน เป็นต้น เพื่อให้ได้แผนผังโครงการและโครงสร้างที่ถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องตามมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา 1.4 คํานวณโครงสร้างทางวิศวกรรมโยธา ประมาณราคาและจัดทำราคากลาง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตั้งงบประมาณในการดําเนินงานด้านวิศวกรรมโยธาได้อย่างเพียงพอ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด 1.5 ศึกษา สํารวจ จัดทำเอกสาร และสรุปรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านวิศวกรรมโยธา รวมทั้งฐานข้อมูลด้านวิศวกรรมโยธาเพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนางานด้านวิศวกรรมโยธาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 1.6 วิเคราะห์ ทดลอง และทดสอบคุณสมบัติของวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในงานวิศวกรรมโยธา เพื่อให้ได้วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในงานวิศวกรรมโยธาที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐานและข้อกําหนดตามสัญญา 1.7 ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อ กำหนด กฎระเบียบ มาตรฐาน มาตรการ ที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน 1.8 ศึกษา วิจัย และทดสอบวัสดุ ที่ใช้ในงานด้านวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยและประหยัดงบประมาณ 1.9 ตรวจสอบสัญญาก่อสร้าง บํารุง บูรณะซ่อมแซมและอํานวยความปลอดภัย รวมถึงการแก้ไขสัญญางานวิศวกรรมโยธา เพื่อให้งานมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนด 1.10 ให้ความรู้ด้านวิศวกรรมโยธาแก่บุคลากร ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง และสามารถนําไปปฏิบัติประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน 1.11 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมโยธา เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการวางแผน วางแผนการทำงานด้านวิศวกรรมโยธาตามที่ได้รับมอบหมาย หรือร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานของหน่วยงาน โครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดําเนินงานด้านวิศวกรรมโยธาเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนดไว้ 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทำงานร่วมกันทั้งภายในและภายนอกทีมงานหรือหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 3.2 ประสานงานด้านวิศวกรรมโยธากับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการดําเนินงานด้านวิศวกรรมโยธาให้มีความสะดวก เรียบร้อย และราบรื่น 3.3 ชี้แจงและให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล ข้อเท็จจริงแก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้คำแนะนํา ชี้แจง ตอบปัญหาและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับงานวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐานในความรับผิดชอบในระดับเบื้องต้นแก่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป เพื่อให้ได้ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งการมีส่วนร่วม 4.2 จัดเก็บข้อมูลเบื้องต้น ทำสถิติ ปรับปรุง จัดทำฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับงานวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สอดคล้องและสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานและใช้ประกอบการ พิจารณากำหนดนโยบาย แผนงาน หลักเกณฑ์ มาตรการต่าง ๆ นายพรศักดิ์ แก้วมุด พนักงานจ้างตามภารกิจ ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่ พนักงานขับรถกระเช่า หมายเลขทะเบียน ๘๑ – ๕๗๔๒ สุราษฎร์ธานี ดูแลรักษาความสะอาด ซ่อมบำรุงรถกระเช่าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และบันทึกการใช้รถกระเช้าทุกครั้งพร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบทุกวันจันทร์ 2. ปฏิบัติหน้าที่งานจัดเตรียมสถานที่ในงานกิจกรรมต่างๆ ของเทศบาล 3. ปฏิบัติหน้าที่งานตัดแต่งกิ่งไม้ที่กีดขวางสายไฟ 4. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น จัดห้องประชุม เป็นต้น
บทบาทหน้าที่VI
2.งานควบคุมอาคารและผังเมือง นายวีระชัย ปวีณพงศ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองช่าง (นักบริหารงานช่าง ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-2103-001 โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 สํารวจ เก็บรายละเอียดด้านวิศวกรรมและสภาพแวดล้อมของพื้นที่ก่อสร้างโครงการเพื่อการวางแผนและออกแบบ 1.2 ออกแบบ กำหนดรายละเอียดงานก่อสร้าง งานบำรุงรักษา งานปรับปรุงและซ่อมแซม เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของหน่วยงานและอยู่ภายใต้งบประมาณที่กำหนด 1.3 ประมาณราคาค่าก่อสร้างของโครงการ โดยแยกราคาวัสดุ ค่าแรงงาน ตามหลักวิชาช่าง และมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นราคากลางในการจ้างเหมาตามระเบียบของทางราชการ 1.4 กำหนดแผนในการดําเนินงานก่อสร้างงาน บำรุงรักษางานปรับปรุงและซ่อมแซมหรือตรวจการจ้างเพื่อให้งานก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ 1.5 ควบคุม ตรวจสอบงานก่อสร้าง งานบำรุงรักษา งานปรับปรุง และซ่อมแซมเพื่อให้ถูกต้องตามแบบรูปและรายการ และมีคุณภาพตามมาตรฐานทางวิศวกรรม 1.6 ติดตามประเมินผลการตรวจสอบสภาพสิ่งก่อสร้าง เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของหน่วยงานและอยู่ภายใต้งบประมาณที่กำหนด 1.7 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานโยธาเพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการกำกับดูแล 2.1 กํากับ ตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้การดําเนินงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นไปตามเป้าหมายที่กําหนด 2.2 วางแผน ประเมินผล และแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานโยธาในหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 3.ด้านการบริการ 3.1 ให้คำแนะนํา สนับสนุนด้านวิชาการ ตอบปัญหาและฝึกอบรมเกี่ยวกับงานโยธาที่รับผิดชอบแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือเจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา หน่วยงานราชการ เอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพื่อถ่ายทอดความรู้ความชํานาญด้านงานโยธาแก่ผู้ที่สนใจ 3.2 ประสานงานในระดับกอง กับหน่วยงานราชการ เอกชนหรือประชาชนทั่วไปเพื่อขอความช่วยเหลือและร่วมมือในงานโยธา และแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์ต่อการทํางานของหน่วยงานและปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น 1. การขออนุญาตปลูกสร้างอาคาร ควบคุมอาคาร รับรองอาคาร ยกเว้นอาคารควบคุมการใช้ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎกระทรวง 2. การระวังชี้แนวเขตที่ดินตามที่นายกเทศมนตรีมอบหมาย 3. เป็นผู้บังคับบัญชาควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงาน ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างของส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง 4. ควบคุมดูแลรับผิดชอบการปฏิบัติงานในหน้าที่ของส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง 5. การกำหนดงาน แผนงาน สั่งการ แก้ไขปัญหา ประเมินผลการปฏิบัติงาน 6. งานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย 3.งานสาธารณูปโภค ลักษณะงานปฏิบัติ เนื่องจากไม่มีผู้ครองตำแหน่งนายช่างโยธาที่รับผิดชอบงานสาธารณูปโภค จึงมอบหมายให้นายวีระชัย ปวีณพงศ์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองช่าง (นักบริหารงานช่าง ระดับต้น) โดยมี นายเมธา รัชชะตำแหน่ง นายช่างศิลปะชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-4708-001 และ นางหัธยา บัวเย็น ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-4101-003 เป็นผู้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ 1. ควบคุมการออกแบบ เขียนแบบรูปภาพการก่อสร้าง การประมาณราคา จัดทำราคากลางและอื่นๆ 2. การกำหนดงาน แผนงาน สั่งการ แก้ไขปัญหา ประเมินผลในการปฏิบัติงาน 3. รับผิดชอบงานกำจัดขยะโดยวิธีไถดันและฝังกลบขยะเพื่อให้การปฏิบัติงานดังกล่าวมีประสิทธิภาพไปตามวัตถุประสงค์ 4. ควบคุมรับผิดชอบจัดการคุณภาพน้ำ งานควบคุมและตรวจสอบการบำบัดน้ำเสีย 5. งานออกแบบและก่อสร้าง 6. การระบายน้ำ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง การบำรุงรักษา คู คลอง ท่อระบายน้ำ ทำการสำรวจพื้นที่และโครงการป้องกันน้ำท่วมขัง 7. งานสำรวจ ออกแบบ เขียนแบบต่างๆ ของงานออกแบบและก่อสร้าง 8. การจัดทำแผนโครงการบำรุงรักษา ดูแลคลองสาธารณะ แผนโครงการล้างท่อระบายน้ำและแผนการดูแล บำรุงรักษาเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์เกี่ยวกับการระบายน้ำให้มีความพร้อมที่จะใช้ในการปฏิบัติงานตลอดจนการแก้ไขเรื่องราวร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมขังการระบายน้ำและจัดตั้งงบประมาณ ขุด ลอก คูคลอง คูน้ำ เป็นต้น 9. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าสาธารณะและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย นายเมธา รัชชะ ตำแหน่ง นายช่างศิลปะชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-05-4708-001 มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้างาน โดยต้องกำกับ แนะนํา ตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ร่วมปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชํานาญงานด้านช่างศิลปะและปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ควบคุมการออกแบบงานศิลปะ บอร์ด ป้ายประกาศ ป้ายโฆษณา ฉาก เวทีของหน่วยงานผังสถานที่ สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อประกอบกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพ สวยงาม และสื่อความได้เป็นอย่างดี 1.2 ควบคุม ดูแล จัดเก็บ บํารุงรักษา ซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์การทํางานให้เป็นระบบ เพื่อให้อุปกรณ์อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ 1.3 ปั้น และจําลองแบบพิมพ์ประเภทต่างๆ เพื่อใช้ในการตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม 1.4 คํานวณและประมาณราคาการใช้วัสดุอุปกรณ์ในปฏิบัติงานช่างศิลปะให้เหมาะสมกับงบประมาณและใช้เป็นข้อมูลในการจัดซื้อ 1.5 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานช่างศิลปะ เพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.6 ปฏิบัติงาน และสนับสนุนงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัดบรรลุภารกิจที่กําหนดไว้ 2. ด้านการกำกับดูแล กํากับ ดูแล และให้คําแนะนําในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ระดับรองลงมา เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 3. ด้านการบริการ 3.1 ให้คําแนะนํา การออกแบบ เทคนิค การจัดงานศิลปะ การจัดนิทรรศการแก่บุคลากรทั้งภายในและภายนอกเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในงานศิลปะ 3.2 จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ คู่มือ หนังสือ แผ่นพับและนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างภาพพจน์ และส่งเสริมการออกแบบงานศิลปะ
บทบาทหน้าที่VII
กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม นางบุญทิพย์ ฐานวิเศษ ตำแหน่ง รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (นักบริหารงานสาธารณสุขระดับต้น) เลขที่ ตำแหน่ง 67-2-06-2104-001เป็นผู้บังคับบัญชา และควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างของกอง สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม โดยปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 08.30 น. – 16.30 น. หน้าที่รับผิดชอบเรื่องที่นายกเทศมนตรีหรือรองนายกเทศมนตรีสั่งการเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งระบุไว้ให้เป็นอำนาจของหัวหน้ากองสาธารณสุข ฯ เรื่องในหน้าที่ของกองสาธารณสุข ฯลฯ ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าหน่วยงานระดับกองหรือหัวหน้าฝ่าย ซึ่งมีลักษณะงานที่เกี่ยวกับการวางแผน การบริหารจัดการ จัดระบบงาน อำนวยการ สั่งราชการ มอบหมาย กำกับ แนะนำ ตรวจสอบประเมินผลงาน ตัดสินใจ แก้ปัญหาในงานที่ต้องใช้ความรู้ ความชำนาญงานเฉพาะด้าน ซึ่งลักษณะหน้าที่รับผิดชอบและคุณภาพของงานสูงมากตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต.กำหนดและปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านแผนงาน 1.1 ร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์และเป้าหมายแนวทางด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเพื่อวางแผนและจัดทำแผนงานโครงการในการพัฒนาหน่วยงาน 1.2 ร่วมวางแผนงาน/โครงการหรือแผนการปฏิบัติงาน รวมทั้งเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานด้านงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่สังกัด เพื่อเป็นแบบแผนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องนโยบายและแผนกลยุทธ์ของส่วนราชการที่สังกัด 1.3 ติดตาม เร่งรัด การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนงาน/โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงานตลอดจนประเมินผลและรายงานการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนดไว้ 1.4 ร่วมวางแผนและกำหนดนโยบายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เพื่อควบคุมดูแลให้ประชาชนในท้องถิ่นมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี สุขภาพอนามัยที่ดีและปราศจากโรคระบาดต่างๆ 1.5 ร่วมวางแผนแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนวทางกำหนดและพัฒนามาตรฐานและกลวิธีการดำเนินงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นภายใต้ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ บุคลากร และเวลา 1.6 ค้นคว้าประยุกต์เทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานในภารกิจของหน่วยงานในภาพรวมเพื่อนำมาปรับปรุงให้การปฏิบัติงานระบบงานหรือกระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1.7 วางแผนการให้บริการด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เช่น การส่งเสริมสุขภาพ การเฝ้าระวัง การป้องกันและควบคุมโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ การควบคุมโรคสัตว์สู่คน การคุ้มครองผู้บริโภคการส่งเสริม บำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อม การควบคุมมลพิษ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การจัดการคุณภาพน้ำคุณภาพอากาศ ฯลฯ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล ทางสถิติที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สามารถวางแผนให้สอดคล้องกับปัญหาด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น 1.8 ติดตามการใช้ทรัพยากรและงบประมาณเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าโปร่งใสและเกิดผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงาน 2. ด้านบริหารงาน 2.1 จัดระบบงานและวิธีการปฏิบัติราชการของหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบ 2.2 มอบหมาย กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไข ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของหน่วยงานเพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 2.3 พิจารณาอนุมัติ อนุญาตการดำเนินการต่างๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 2.4 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ เอกชน และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อเกิดความร่วมมือหรือบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการ 2.5 ชี้แจงข้อเท็จจริง พิจารณาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะในที่ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่างๆ ที่ได้รับแต่งตั้งหรือเวทีเจรจาต่างๆ ในฐานะผู้แทนหน่วยงานหรือส่วนราชการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการและประเทศชาติ 2.6 มอบหมาย ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไข และควบคุมดูแลการ ให้บริการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมหลายๆ ด้าน ได้แก่ การรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมโรค การสุขศึกษา การสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองผู้บริโภค การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การส่งเสริม บำรุงรักษา และคุ้มครองคุณภาพสิ่งแวดล้อม การจัดการมลพิษ การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การจัดการคุณภาพน้ำคุณภาพอากาศ ฯลฯ เพื่ออำนวยการให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีมีอนามัย และได้รับบริการที่รวดเร็วถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.7 มอบหมาย ตรวจสอบ ติดตาม ให้คำแนะนำ ปรับปรุงแก้ไข และควบคุมดูแลการตรวจควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ในท้องถิ่นที่รับผิดชอบเพื่อให้เป็นไปตามกฎและระเบียบที่กำหนดไว้ ควบคุมดูแล การสุขาภิบาลหรือการเฝ้าระวังโรคเพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคและให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่ดี 2.8 ตอบปัญหา ชี้แจงและดำเนินการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เช่นเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ เป็นต้น เพื่อควบคุมให้ภารกิจดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2.9 ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ เอกชน และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความร่วมมือหรือบูรณาการงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและอำนวยการปฏิบัติงานและสนับสนุนงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัดบรรลุภารกิจที่กำหนดไว้ 2.10 กำหนดนโยบายด้านการบริหารงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการ ดำเนินงานในการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนามาตรฐานและใช้ในการดำเนินงาน การเสนอแนวทางและกำหนดการพัฒนามาตรฐานงานและวิธีการดำเนินงานการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพโดยยึดหลักการบริหารจัดการที่ดีเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน 2.11 จัดระบบการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานตลอดจนวิเคราะห์ผลดี ผลกระทบ ปัญหาอุปสรรค เพื่อให้การสนับสนุนหรือทำการปรับปรุงแก้ไข 2.12 อำนวยการ ปฏิบัติงานและสนับสนุนงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัดบรรลุภารกิจที่กำหนดไว้ 3. ด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล 3.1 จัดระบบงานและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้สอดคล้องกับภารกิจ ปริมาณงานและงบประมาณเพื่อให้ปฏิบัติราชการเกิดประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า 3.2 ติดตามและประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชาเพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงานและบรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 3.3 ให้คำปรึกษาแนะนำปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในบังคับบัญชาให้มีความสามารถและสมรรถนะที่เหมาะสมงานที่ปฏิบัติ 3.4 จัดรูปแบบและวางแนวทางการปฏิบัติราชการของบุคลากรในองค์กรให้มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่นต่อการปฏิบัติงานโดยกำหนดหรือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ที่มีลักษณะงานสอดคล้องหรือเกื้อกูลกันสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ทุกตำแหน่งเพื่อให้การดำเนินงานเกิดความคล้องตัวและมีความต่อเนื่อง 3.5 สอนงาน พัฒนาการปฏิบัติงาน ฝีกอบรมหรือถ่ายทอดความรู้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อพัฒนาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่กำกับให้มีความเชี่ยวชาญและสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์แก่หน่วยงานอย่างยั่งยืน 4. ด้านบริหารทรัพยากรและงบประมาณ 4.1 กำหนดนโยบายและวางแผนการใช้ทรัพยากรและงบประมาณของหน่วยงาน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย พันธกิจ และเป็นไปตามเป้าหมายของส่วนราชการ 4.2 ติดตาม ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรและงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ 4.3 ควบคุม กำกับ ตรวจสอบ การจัดหาพัสดุให้เกิดความโปร่งใสและถูกต้องตามระเบียบ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดและริเริ่มคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆให้เกิดความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงาน 4.4 ร่วมหรือวางแผนและประสานกิจกรรมให้มีการใช้ทรัพยากรของหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งด้านงบประมาณ อาคารสถานที่และอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ คุ้มค่า และบรรลุเป้าหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด โดยอาจพิจารณานำงบประมาณที่ได้รับจัดสรรมาดำเนินการและใช้จ่ายร่วมกัน 4.5 ร่วมหรือบริหารและกำหนดแนวทางการจัดสรรและการใช้ทรัพยากรหรืองบประมาณตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด นางสาวหาซือนะ สะแต ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-06-3601-001 มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1. ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุข การศึกษา วิเคราะห์ วิจัย วินิจฉัยปัญหา พัฒนาทางด้านสาธารณสุข การสุขศึกษา การส่งเสริมสุขภาพ การสุขาภิบาล และการควบคุมโรค 2. ปฏิบัติงานนโยบาย วางแผน ดำเนินงานด้านการสาธารณสุข วัดและประเมินผล กำหนดระบบและวิธีการด้านนิเทศ นิเทศควบคุม ติดตามผล และประเมินผลงานด้านการสาธารณสุขการสอนและอบรมด้านสาธารณสุข 3. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ปฏิบัติงานธุรการ งานสารบรรณของกองสาธารณสุขฯ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 5. ปฏิบัติงานด้านการเงิน งานพัสดุของกองสาธารณสุขฯ 6. ปฏิบัติงานแผนงานและนโยบาย 7. งานสวัสดิการต่างๆ งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ร้องเรียน 8. จัดทำฎีกากองสาธารณสุขฯ 9. งานตรวจสอบแสดงรายการเกี่ยวกับเอกสารของทางราชการ 10. งานข้อมูลข่าวสารของกองสาธารณสุขฯ 11. ปฏิบัติงานกองทุนหลักประกันสุขภาพ 12. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย งานกำจัดขยะมูลฝอย นายไตรรัตน์ พิศนุพงศ์ ลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา ทำหน้าที่ขับรถบรรทุกขยะโดยปฏิบัติงานทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 - 13.00 น. มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ 1. ปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถบรรทุกขยะ หมายเลขทะเบียน 81 – 1677 สุราษฎร์ธานีและดูแลรักษารถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้และทำความสะอาดรถบรรทุกขยะหลังจากมีการทิ้งขยะ ตลอดจนดูและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและพร้อมทั้งบันทึกการใช้รถบรรทุกขยะทุกครั้งเมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ 2. จัดชุดเก็บขนขยะในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอนด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย 3. ปฏิบัติหน้าที่ชุดพ่นหมอกควันควบคุมโรคติดต่อโดยแมลง 4. ในกรณีที่นายไตรรัตน์ พิศนุพงศ์ ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้ มอบหมายให้ นายพรศักดิ์ แก้วมุด ปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานขับรถบรรทุกขยะคันดังกล่าวแทน 5. ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย หมายเหตุ สำหรับการขนขยะใส่รถและนำไปทิ้งได้ดำเนินการจ้างเหมาบริการบุคคลภายนอกดำเนินการงานทั่วไป นางบุญทิพย์ ฐานวิเศษ ตำแหน่ง รองปลัดเทศบาล รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้กำกับดูแล รับผิดชอบงานทั่วไป และมีพนักงานจ้างเป็นผู้ช่วยจำนวน 2 คน ประกอบด้วย 2.1 น.ส.จุไรรัตน์ ปดิฐพร พนักงานจ้าง ตำแหน่ง คนงานทั่วไป เป็นผู้กำกับดูแลการปฏิบัติงานภาคสนาม มีหน้าที่รับผิดชอบการตัดหญ้า ถางหญ้า ดายหญ้า ตัดแต่งต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในเขตเทศบาล กวาดถนน ล้างถนน ฉีดพ่นหญ้า ฉีดพ่นยุง เก็บเศษขยะ ช่วยปฏิบัติหน้าที่ฉุกเฉินกรณีเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจะประสานขอความช่วยเหลือให้ทราบทางโทรศัพท์โดยด่วน จัดสถานที่ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่กรณีบุคลากรสังกัดงานอื่นไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือตามที่ได้รับการร้องขอ และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องและตามที่ได้รับมอบหมาย โดยปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา08.30 น. - 16.30 น. หรือนอกเวลาราชการหากภารกิจงานต่อเนื่องหรือตามความเหมาะสม 2.2 นางสาววิลาสินี คงปาน พนักงานจ้าง ตำแหน่งคนงานทั่วไป ช่วยปฏิบัติงานในการจัดกิจกรรมต่างๆ งานขออนุมัติจัด ซื้อจัดจ้าง งานควบคุมการเบิกจ่ายพัสดุภายในกอง รับผิดชอบงานบันทึกข้อมูล ปฏิบัติงานดูเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับระเบียบกฎหมาย หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติงานธุรการ รับ – ส่งหนังสือ เสนอหนังสือ งานอื่นๆตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
บทบาทหน้าที่VIII
กองการศึกษา มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษา และพัฒนาการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น การจัดการศึกษาปฐมวัย อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา และอาชีวศึกษา โดยให้มีงานธุรการ งานการเจ้าหน้าที่ งานบริหารวิชาการ งานโรงเรียน งานศึกษานิเทศก์ งานกิจการศึกษา งานการศึกษาปฐมวัย งานขยายโอกาสทางการศึกษา งานฝึกและส่งเสริมอาชีพ งานห้องสมุดพิพิธภัณฑ์และเครือข่ายทางการศึกษา งานกิจการศาสนา ส่งเสริมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม งานกีฬาและนันทนาการ งานกิจกรรมเด็กและเยาวชน และการศึกษานอกโรงเรียนและงานอื่น ๆ และ มีหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานการพัฒนาชุมชน ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติเกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมเป็นผู้ประสานงานระหว่างส่วนราชการและองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่น งานดูและสวัสดิการชีวิตความเป็นอยู่ เด็ก สตรี คนชรา งานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือ ตามที่ได้รับมอบหมาย กองการศึกษา มีหน้าที่ความรับผิดชอบภายในส่วนราชการตามภารกิจหน้าที่ 2 งาน ประกอบด้วย งานการศึกษาปฐมวัย และงานสวัสดิการและสังคม นางสาวจรรธิรา อัยราคม ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองศึกษา (นักบริหารงานศึกษา ระดับต้น) เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-2107-001 มีหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา พนักงานเทศบาล ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้าง ควบคุมดูแล รับผิดชอบงานในกองการศึกษา ตรวจสอบและติดตามประเมินผล วินิจฉัยปัญหาข้อขัดข้อง สั่งการในงานประจำ ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย หรือข้อบังคับ เรื่องที่นายกเทศมนตรีสั่งการเกี่ยวกับนโยบายของเทศบาลหรือทางราชการ ระบุให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการกองการศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ความรับผิดชอบดังนี้ 1.1 เป็นผู้บังคับบัญชา กำหนดนโยบายการปฏิบัติงาน พิจารณาอัตรากำลังและงบประมาณประสานงาน วางแผน การมอบหมายงาน การวินิจฉัยสั่งการ การกำกับ ควบคุมตรวจสอบและแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานของกองการศึกษาและสถานศึกษาในสังกัด 1.2 วางแผน โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงานด้านการศึกษา ทั้งการศึกษาในระบบนอกระบบและตามอัธยาศัย งานส่งเสริมกีฬา นันทนาการ งานพัฒนากิจกรรมเด็กและเยาวชน ส่งเสริมศาสนาขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน และประชาชนในท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับนโยบาย เป้าหมาย และแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลท่าขนอน 1.3 รับผิดชอบควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของกองการศึกษา และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1.4 รับผิดชอบบริหารงบประมาณ วิเคราะห์เพื่อการจัดตั้ง จัดสรรงบประมาณ ควบคุมและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของกองการศึกษาและสถานศึกษาในสังกัดให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบ กฎ ข้อบังคับต่าง ๆ 1.5 รับผิดชอบ ควบคุมการบริหารงานบุคลากรในกองการศึกษา การบรรจุแต่งตั้งการกำหนดมาตรฐาน คุณภาพงาน การกำหนดเกณฑ์และประเมินผลการปฏิบัติงาน การดำเนินการทางวินัยอุทธรณ์ และร้องทุกข์ การจัดสวัสดิการแก่ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา 1.6 รับผิดชอบงานการศึกษาปฐมวัย ควบคุมดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตรวจสอบหลักฐานเอกสารต่าง ๆ การพิจารณาจัดตั้ง ยุบเลิกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การดูแล จัดเตรียม และให้บริการวัสดุอุปกรณ์คู่มือครู สื่อการเรียนการสอน การจัดตั้งคณะกรรมการบริหารของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การติดต่อประสานงานกับสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เผยแพร่ข่าวสารเอกสารต่าง ๆ กฎ ระเบียบ และนโยบายของทางราชการ อันเกี่ยวกับการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กการส่งเสริมสุขอนามัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก การสร้างสัมพันธ์ระหว่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1.7 รับผิดชอบงานแผนงานและโครงการ รวบรวมรายละเอียดแผนงานโครงการของฝ่าย/งานต่าง ๆ และสถานศึกษาในสังกัด และจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา รวบรวมข้อมูลการติดตามผลแผนพัฒนาการศึกษาเทศบาลและรายงานรวบรวมข้อมูลการตรวจสอบการปฏิบัติงานตามแผนงานและโครงการของฝ่าย/งานต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวบรวมข้อมูลและจัดทำแผนงานของกองการศึกษา การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาเทศบาลและแผนพัฒนาของสถานศึกษาในสังกัด รวมถึงการตรวจสอบการดำเนินงานตามแผนการติดตามประเมินผลและรายงานผล 1.8 รับผิดชอบกำกับดูแล งานส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1.9 ติดตาม เร่งรัดการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนงาน โครงการ หรือแผนการปฏิบัติงาน ตลอดจนประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตามที่กำหนด 1.10 วางแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ และเสนอแนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานหรือระบบงานของหน่วยงานด้านงานการศึกษาที่สังกัดที่รับผิดชอบ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นภายใต้ข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ บุคลากร และเวลา 1.11 พิจารณาอนุมัติ อนุญาตการดำเนินการต่าง ๆ ตามภารกิจที่หน่วยงานรับผิดชอบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด 1.12 ปฏิบัติงานนิเทศการศึกษาและตรวจโรงเรียน เพื่อประเมินผลและนำเสนอการปรับปรุงโรงเรียนและระบบต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด 1.13 ชี้แจงข้อเท็จจริง พิจารณาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะในที่ประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานต่าง ๆ ที่ได้รับแต่งตั้ง หรือเวทีเจรจาต่าง ๆ ในฐานะผู้แทนหน่วยงานหรือส่วนราชการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการและประเทศชาติ 1.14 รับผิดชอบงานวิชาการ สนับสนุน ส่งเสริม คุณภาพและรักษามาตรฐานการศึกษา 1.15 งานส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานหลักสูตร งานจัดทำหลักสูตรที่มีความจำเป็นต่อนักเรียน ผู้สอน จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี จัดทำส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับหลักสูตรพื้นฐาน 1.16 งานการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย การจัดและให้บริการทางการศึกษานอกโรงเรียน ในระดับขั้นพื้นฐานแก่เยาวชน ประชาชน ซึ่งด้อยโอกาสและพ้นเกณฑ์อายุ 15 ปี การบริการการศึกษาตามอัธยาศัย , วิทยาลัยชุมชนและศูนย์การเรียนรู้ในชุมขน หรือการศึกษานอกเหนือจากการศึกษาในระบบการสำรวจข้อมูลความต้องการทางการศึกษานอกระบบ และตามอัธยาศัยในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน 1.17 ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา ทั้งในระบบ นอกระบบ และการศึกษาพิเศษการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและมาตรฐาน 1.18 งานระบบสารสนเทศ ข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษา ของกองการศึกษา ทั้งด้านบุคลากร การเงิน งบประมาณ ครุภัณฑ์ กิจกรรม แผนงาน โครงการ สถิติการศึกษา การจัดทำรายงานผลการศึกษา การบริการสารสนเทศทางการศึกษา ติดตาม รวบรวมสถิตินักเรียน ข้อมูลนักเรียน ณ วันที่ 10 มิถุนายน , 1 พฤศจิกายน หรือตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำหนด และบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมรายงานหน่วยงานต้นสังกัดตามลำดับ 1.19 ตรวจสอบความถูกต้อง เรียบร้อยของผลงานทางวิชาการของครูหรือบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเสนอขอประเมินวิทยฐานะของครูและบุคลากร 1.20 ประสานและร่วมดำเนินการเรื่องการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ค่าตอบแทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความก้าวหน้าให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด 1.21 ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย 1. งานการศึกษาปฐมวัย ในระหว่างที่ไม่มีผู้ครองตำแหน่ง นักวิชาการศึกษา มอบหมายให้ นางสาวจรรธิรา อัยราคมตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองศึกษา เป็นผู้กำกับดูแลงานในตำแหน่ง นักวิชาการศึกษา เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-3803-001 เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ความรับผิดชอบ ดังนี้ 1. งานเก็บวิเคราะห์ข้อมูล สถิติทางการศึกษา และทดลองวิจัยทางการศึกษา 2. งานเผยแพร่แนะแนวการศึกษา เกี่ยวกับการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา 3. งานส่งเสริมและเผยแพร่การศึกษาและวิชาการ แนะแนวหลักสูตรการเรียนการสอน 4. งานกำกับและควบคุมคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัยให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา 5. งานวางแผนกำหนดแนวทางปฏิบัติ วินิจฉัย สั่งการ ประสานงานและตรวจสอบการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 6. ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง 7. งานส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนเด็ก การอบรมเลี้ยงดู จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมแก่เด็กปฐมวัย 8. งานสำรวจรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเด็ก 9. งานจัดทำแผนพัฒนาเทศบาลทั้งแผน 3 ปี และแผนประจำปี 10. งานโครงการประกวดกิจกรรมเด็กในเขตเทศบาล 11. งานจัดทำงบประมาณประจำปีและเพิ่มเติม ตรวจสอบงบประมาณคงเหลือทุกงานของกองการศึกษา 12. งานเกี่ยวกับการวางแผนการเบิกจ่ายเงินและบัญชี เช่น การวางฎีกา เตรียมการเบิกจ่ายเงินรวมทั้งการลงบัญชี ควบคุมการใช้จ่ายเงินของกองการศึกษา 13. งานจัดทำบัญชีพัสดุ ครุภัณฑ์ เอกสาร ใบสำคัญเกี่ยวกับการเบิกจ่ายพัสดุของกองการศึกษา 14. งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกองการศึกษา 15. งานขออนุมัติจัดซื้อ-จัดจ้าง ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุงานธุรการของกองการศึกษา 16. งานควบคุมตรวจสอบการเบิกจ่ายพัสดุ และรวบรวมรายงานพัสดุคงเหลือประจำปี 17. รับผิดชอบการปฏิบัติงานบันทึกข้อมูล, ปฏิบัติงานธุรการ, งานจัดซื้อ 18. จัดทำฎีกา ควบคุม และจัดทำทะเบียนวัสดุทำงาน 19. ปฏิบัติงานรับ – ส่งหนังสือ ของกองการศึกษาทุกประเภทและนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ 20. ปฏิบัติงานเสนอหนังสือ เสนอแฟ้มต่อผู้บังคับบัญชา 21. ปฏิบัติงานดูเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ระเบียบ กฎหมาย หนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของกองการศึกษา 22. แจกจ่ายหนังสือให้แก่บุคลภายนอกและหน่วยงานต่างๆ 23. ปฏิบัติงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย โดยมีลักษณะงานย่อย ดังนี้ 1.1 งานส่งเสริมและพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน 1. นางสาวฐิรฉัตร ทีปะปาล ตำแหน่ง ครู ชำนาญการ เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-6600-072ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน มีหน้าที่ รับผิดชอบดูแลบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมถึงการดำเนินงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้เป็นไปตามนโยบายและแผนงานที่วางไว้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ได้แก่ งานบุคลากรและการบริหารจัดการงานอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม งานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตรงานการมีส่วนร่วม และการสนับสนุนจากชุมชน งานธุรการ การเงินและพัสดุ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.1 งานบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีหน้าที่เกี่ยวกับ 1) รับผิดชอบดูแลพนักงานครูและบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน รวมถึงการดำเนินงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นโยบายและวัตถุประสงค์ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 2) วางแผนการศึกษา ประเมิน และ จัดทำรายงานเกี่ยวกับการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เช่น จัดทำแผนโครงการและงบประมาณในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กเล็กทุกด้านอย่างต่อเนื่อง 3) จัดทำและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย การจัดกระบวนการเรียนรู้การพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี และการวัดผลการประเมิน 4) จัดทำภาระงานของบุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก รวมถึงประเมินผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานบุคลากรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและส่งเสริมสนับสนุน บุคลากรในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 5) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนาผู้เรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 6) ประสานความร่วมมือกับชุมชน ในการระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาและพัฒนาศูนย์พัฒนาศูนย์เด็กเล็ก 7) เป็นผู้แทนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในกิจการทั่วไป และประสานเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย 8) นิเทศ ส่งเสริมสนับสนุน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของครูผู้ดูแลเด็กและผู้ดูแลเด็ก 9) จัดระบบประกันคุณภาพภายในและรายงานประเมินตนเอง 10) วัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ 11) สร้างและพัฒนาหลักสูตร โดยจัดทำรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตร 1.2 งานจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีหน้าที่เกี่ยวกับ 1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์เรียนรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) จัดอบรมสั่งสอนและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และคุณลักษณะตามวัย 3) ปฏิบัติงานวิชาการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 4) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน 5) ปฏิบัติงานความร่วมมือกับเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย 6) จัดทำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 7) จัดทำวิจัยในชั้นเรียน 8) จัดหาและผลิตสื่อ นวัตกรรมการเรียนรู้ 9) จัดทำเครื่องมือวัด และประเมินผล 10) ประสานสัมพันธ์ระหว่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกับผู้ปกครอง ชุมชน 11) พัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาผู้เรียน 12) จัดให้มีการประเมินพัฒนาการผู้เรียน 13) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 14) อบรมเลี้ยงดูและจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรกำหนด 15) ปฏิบัติหน้าที่ครูประจำชั้น จัดทำธุรการชั้นเรียน และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 16) ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและบุคลากรในชุมชนเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ 17) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 18) รวบรวมผลงานรายงานผลการปฏิบัติงานตามลำดับ 19) วัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ 20) สร้างและพัฒนาหลักสูตร โดยจัดทำรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร 1.3 งานวิชาการและกิจกรรมตามหลักสูตร รับผิดชอบการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในภายนอก การจัดทำเอกสารรายงานประเมินตนเอง การจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 1.4 งานบุคลากรของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานบริหารงานบุคคลของพนักงานครูเทศบาลและพนักงานจ้าง ที่สังกัดศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน การดำเนินการทางวินัย ร้องเรียน ร้องทุกข์ การเดินทางไปราชการ การควบคุมดูแลการลาของพนักงานครูเทศบาลและพนักงานจ้าง การลาศึกษาต่อ 1.5 ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เทศบาลต้นสังกัดจัดขึ้น 1.6 ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย 2. นางนิภาวรรณ สมเพชร ตำแหน่ง ครู เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-6600-073 มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ 2.1 งานจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีหน้าที่เกี่ยวกับ 1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์เรียนรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) จัดอบรมสั่งสอนและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และคุณลักษณะตามวัย 3) ปฏิบัติงานวิชาการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 4) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน 5) ปฏิบัติงานความร่วมมือกับเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย 6) จัดทำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ 7) จัดทำวิจัยในชั้นเรียน 8) จัดหาและผลิตสื่อ นวัตกรรมการเรียนรู้ 9) จัดทำเครื่องมือวัด และประเมินผล 10) ประสานสัมพันธ์ระหว่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกับผู้ปกครอง ชุมชน 11) พัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาผู้เรียน 12) จัดให้มีการประเมินพัฒนาการผู้เรียน 13) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 14) อบรมเลี้ยงดูและจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหลักสูตรกำหนด 15) ปฏิบัติหน้าที่ครูประจำชั้น จัดทำธุรการชั้นเรียน และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 16) ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและบุคลากรในชุมชนเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ 17) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 18) รวบรวมผลงานรายงานผลการปฏิบัติงานตามลำดับ 19) วัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ 20) สร้างและพัฒนาหลักสูตร โดยจัดทำรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร 2.2 รับผิดชอบงานแผนพัฒนาการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน 2.3 งานการเงิน ได้แก่ งานจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ การจัดทำงบประมาณการทำบัญชีการเงินการเบิกจ่ายเงิน การจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ควบคุมงบประมาณการเบิกจ่ายเงินของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 2.4 งานส่งเสริมเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ได้แก่ งานประชุมเครือข่าย ประสานงานเครือข่ายเพื่อสวัสดิการครู 2.5 ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เทศบาลต้นสังกัดจัดขึ้น 2.6 ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย 3. นางอภิญญา พืชผล ตำแหน่ง ผู้ช่วยครูผู้ดูแลเด็ก (ผู้มีทักษะ) ปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์พัฒนา เด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน มีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้ 3.1 งานจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีหน้าที่เกี่ยวกับ 1) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์เรียนรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ด้วยวิธีที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) จัดอบรมสั่งสอนและจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และคุณลักษณะตามวัย 3) ปฏิบัติงานวิชาการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน 4) ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5) ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองและบุคลากรในชุมชนเพื่อร่วมกันพัฒนากับผู้เรียน 6) ทำนุบำรุง ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 7) ปฏิบัติงานความร่วมมือกับเครือข่ายการพัฒนาเด็กปฐมวัย 3.2 งานพัสดุของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลท่าขนอน ได้แก่ ตรวจสอบอุปกรณ์ วัสดุ และครุภัณฑ์ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้และมีความปลอดภัย จัดซื้อ จัดหา วัสดุปกรณ์ ให้เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน ตรวจรับ และเบิกจ่าย วัสดุ อุปกรณ์ ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3.3 รับผิดชอบงานอาคาร สถานที่ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยงานอาคารสถานที่ ดูแลความเรียบร้อยของอาคารสถานที่ และเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดกิจกรรมของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ประเมินสภาพแวดล้อม ประเมินความเสี่ยงของของสภาพแวดล้อมทุกเดือนและรายงานผู้บริหารทราบ 3.4 รับผิดชอบงานการมีส่วนร่วม และส่งเสริมสนับสนุนศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ประสานงานแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จัดตั้งเครือข่ายผู้ปกครอง จัดประชุมคณะกรรมการต่าง ๆ ติดต่อประสานงานวิทยากรในการให้ความรู้ เข้าร่วมดำเนินการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3.5 ปฏิบัติงานธุรการ งานสารบรรณ งานบริหารทั่วไป ได้แก่ การรับ – ส่งหนังสือการลงทะเบียนการรับหนังสือ การร่างโต้ตอบหนังสือราชการ การบันทึกข้อมูล การพิมพ์เอกสาร จดหมาย และหนังสือราชการต่าง ๆ การเตรียมการประชุม บันทึกการประชุม และมีหลักฐานในการประชุม เป็นต้น เพื่อสนับสนุนให้งานต่าง ๆ ดำเนินไปด้วยความสะดวกเรียบร้อยตรงตามเป้าหมาย มีหลักฐานตรวจสอบได้ 3.6 จัดเตรียม และดำเนินการผลิตเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม การฝึกอบรมสัมมนา 3.7 ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมที่เทศบาลต้นสังกัดจัดขึ้น 3.8 ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
บทบาทหน้าที่IX
1.2 งานส่งเสริมศาสนา ประเพณี ศิลปะ และ วัฒนธรรมท้องถิ่น นางสาววรุณี นวลแก้ว ตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-4101-001 เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ดังนี้ 1. งานส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม ไดแก่ งานเกี่ยวกับการส่งเสริมศิลปะ อนุรักษ์งานศิลป์ หอวัฒนธรรมพิพิธภัณฑ์สถาน การสืบทอดส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การพัฒนา และเผยแพร่วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้าน เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาให้เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น 2. งานจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศวัฒนธรรมท้องถิ่น วัฒนธรรมพื้นบ้าน และงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ 3. งานส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น 4. งานส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น งานประเพณีที่สำคัญในรอบปี 5. ดูแลและรับผิดชอบการดำเนินงานของสภาวัฒนธรรมและศูนย์บูรณาการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนตำบลท่าขนอน 6. งานประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา 7. งานส่งเสริมศาสนา ได้แก่ งานการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม จัดประชุมสัมมนาอบรมเกี่ยวกับศาสนา จัดทำแผนงานด้านการศาสนาและวัฒนธรรม งานอนุรักษ์ศาสนสถาน โบราณสถาน และโบราณวัตถุ 8. จัดทำงบประมาณประจำปีและเพิ่มเติม ตรวจสอบงบประมาณคงเหลือ 9. จัดทำฎีกาเบิกจ่ายเงิน วางแผนการเบิกจ่ายเงิน 10. บันทึกขออนุมัติต่าง ๆ 11. ปฏิบัติงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย 2. งานสวัสดิการสังคม นางสาววรรณธิดา พันรังษี ตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชน เลขที่ตำแหน่ง 67-2-08-3801-001 ปฏิบัติงานในฐานะผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ โดยใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชํานาญงานสูงในด้านวิชาการพัฒนาชุมชน ปฏิบัติงานที่ต้องตัดสินใจหรือแก้ปัญหาที่ยาก และ ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีลักษณะงานที่ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการปฏิบัติการ 1.1 ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยด้านพัฒนาชุมชน เพื่อจัดทําแผนงาน สนับสนุนการรวมกลุ่มของประชาชนในชุมชนประเภทต่าง ๆ รวมถึงแสวงหาและพัฒนาศักยภาพของผู้นําชุมชน กลุ่ม องค์กรและเครือข่ายองค์กรประชาชน 1.2 ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยด้านพัฒนาชุมชน เพื่อกําหนดมาตรการและกลไกในการพัฒนาและส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารจัดการชุมชน ตลอดจนการพัฒนาและส่งเสริมความเข้มแข็ง สมดุลและมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชนระดับฐานรากรวมทั้งในการพัฒนารูปแบบ วิธีการพัฒนาชุมชนให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ 1.3 ศึกษา วิเคราะห์ ปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในงานพัฒนาชุมชน เพื่อหา แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป 1.4 ศึกษา วิเคราะห์ จัดทําและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศในการพัฒนาชุมชนและระบบสารสนเทศชุมชน เพื่อกําหนดนโยบาย แผนงาน ตลอดจนกําหนดแนวทางหรือวางแผนการพัฒนาในทุกระดับ 1.5 เสนอแนะแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพชุมชนและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อสร้างความสมดุลในการพัฒนาชุมชนและความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชนระดับฐานรากนําไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน 1.6 กําหนดมาตรฐานและเกณฑ์ชี้วัดด้านการพัฒนาชุมชน เพื่อให้มีเกณฑ์ชี้วัดด้านการพัฒนาชุมชนที่ถูกต้องเหมาะสมได้มาตรฐาน 1.7 ส่งเสริม พัฒนา ออกแบบ สรุปและวิเคราะห์การดําเนินการด้านการจัดการ ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน เพื่อสร้างและพัฒนาระบบการจัดการความรู้ของชุมชน 1.8 ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ชุมชนสามารถคิดค้นปัญหา วิเคราะห์ ตัดสินใจ วางแผนและดำเนินการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของตนเองและชุมชนได้ 1.9 ส่งเสริมและพัฒนารูปแบบ/วิธีการจัดเวทีประชาคม หรือเวทีชุมชนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเอื้อให้ประชาชนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อันนําไปสู่การจัดทำแผนชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของชุมชนและพัฒนาเครือข่ายของชุมชนในทุกระดับ 1.10 ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาทักษะ และให้ความรู้ในการบริหารจัดการระบบข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ผู้นําชุมชน องค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชนและภาคีการพัฒนาเพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการพัฒนาชุมชน และการจัดทำระบบสารสนเทศชุมชนรวมทั้งการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด 1.11 ควบคุม ติดตาม ดูแลการส่งเสริม สนับสนุนกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ประชาชนในชุมชนสามารถจัดทำแผนชุมชน รวมทั้งวิเคราะห์ ตัดสินใจ และดำเนินการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการของตนเองและชุมชนได้ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาในการดําเนินงานพัฒนาชุมชน 1.12 ควบคุม ติดตาม ดูแลการส่งเสริม สนับสนุนในการรวมกลุ่มและจัดตั้งกลุ่มองค์กร ชุมชน กลุ่มแม่บ้านและเครือข่ายประชาชน เพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีความสนใจ ความเข้าใจ และความคิดริเริ่มในการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่นของตน 1.13 ควบคุม ติดตาม ดูแลการรวบรวมและลงทะเบียนผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ติดเชื้อ เอดส์ เพื่อดูแลและจัดสวัสดิการที่พึงได้เช่น เบี้ยยังชีพ เบี้ยสงเคราะห์ ในการช่วยเหลือและสงเคราะห์ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 1.14 วางแผน ฝึกอบรม ส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพที่เหมาะสมแก่ประชาชนในชุมชนเพื่อให้กลุ่มอาชีพสามารถเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ให้กับชุมชน 1.15 ศึกษา วิเคราะห์ หรือควบคุมการจัดทำโครงการและงบประมาณ รวมถึงการดำเนินการตามแผนโครงการ การโฆษณาและประชาสัมพันธ์และการประเมินผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน เช่นกิจกรรมส่งเสริมครอบครัว กิจกรรมแข่งกีฬา กิจกรรมที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน กิจกรรมเพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด เป็นต้น 1.16 แสวงหา พัฒนา ส่งเสริม ประสานและสนับสนุนผู้นําชุมชนหรือกรรมการชุมชน เพื่อให้รู้ถึงบทบาทหน้าที่และเกิดการพัฒนาศักยภาพให้สามารถพัฒนาชุมชนของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 1.17 ดูแลและบริหารตลาดกลางขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีตลาดจําหน่ายสินค้าที่เป็นธรรม 1.18 ควบคุม ติดตาม ดูแลการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดกองทุนหรือสมาคมในรูปแบบต่างๆ เช่นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อเกิดสวัสดิการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในชุมชน 1.19 ให้คำปรึกษา และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแก่เจ้าหน้าที่ในระดับรองลงมาในสายงาน ผู้ร่วมงาน หรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและแล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด 1.20 ศึกษา และติดตามเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆ กฎหมาย และระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาชุมชนเพื่อนํามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. ด้านการวางแผน วางแผนหรือร่วมดำเนินการวางแผนการทำงานตามแผนงานหรือโครงการของหน่วยงาน ระดับสำนัก หรือกอง และแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานเพื่อให้การดําเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ที่กำหนด 3. ด้านการประสานงาน 3.1 ประสานการทำงานร่วมกันโดยมีบทบาทในการให้ความเห็นและคำแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือหน่วยงานอื่นเพื่อให้เกิดความร่วมมือและผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนด 3.2 ให้ข้อคิดเห็นหรือคำแนะนําเบื้องต้นแก่สมาชิกในทีมงานหรือบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการดําเนินงานตามที่ได้รับมอบหมาย 4. ด้านการบริการ 4.1 ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของผู้นําชุมชน กลุ่มหรือองค์กรประชาชนเครือข่ายองค์กรประชาชน และชุมชนตลอดจนภาคีการพัฒนาทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนและความมั่นคงของเศรษฐกิจชุมชนระดับฐานรากตามหลักการพึ่งตนเองและหลักการมีส่วนร่วมของชุมชน 4.2 กำหนดวิธีการ และออกแบบการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับ การดําเนินงานพัฒนาชุมชนในทุก ๆ ด้าน เช่น ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแหล่งทุน ข้อมูลสารสนเทศชุมชน ข้อมูลการพัฒนาอาชีพฯลฯ เพื่อให้บริการแก้หน่วยงานภาคีการพัฒนา ประชาชน ผู้นําชุมชน กลุ่มองค์กรประชาชน เครือข่ายองค์กรประชาชนและชุมชน 4.3 และงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย ดังนี้ 1. งานจัดทำแผนพัฒนาเทศบาลและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกองการศึกษา 2. งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกองการศึกษา 3. งานขออนุมัติจัดซื้อ-จัดจ้าง ในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุงานธุรการของกองการศึกษา 4. งานควบคุมตรวจสอบการเบิกจ่ายพัสดุ และรวบรวมรายงานพัสดุคงเหลือประจำปี 5. รับผิดชอบการปฏิบัติงานบันทึกข้อมูล , ปฏิบัติงานธุรการ , งานจัดซื้อ 6. จัดทำฎีกา ควบคุม และจัดทำทะเบียนวัสดุทำงาน 7. ปฏิบัติงานรับ – ส่งหนังสือ ของกองการศึกษาทุกประเภทและนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ 8. ปฏิบัติงานเสนอหนังสือ เสนอแฟ้มต่อผู้บังคับบัญชา 9. ปฏิบัติงานดูเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ระเบียบ กฎหมาย หนังสือสั่งการ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของงานสวัสดิการสังคม 10. ดูแลระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพลำดับที่ 2 11. แจกจ่ายหนังสือให้แก่บุคคลภายนอกและหน่วยงานต่างๆ 12. ปฏิบัติงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องตามที่เทศบาลและผู้บังคับบัญชามอบหมาย ดังนี้ 2.1. งานพัฒนาชุมชน มีหน้าที่ดังนี้ 1. งานฝึกอบรมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชน 2. งานจัดระเบียบชุมชน 3. งานจัดทำโครงการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ให้แก่ชุมชน 4. งานส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพในชุมชน 5. งานฝึกอบรมอาชีพหลักสูตรระยะสั้น แบบต่อเนื่องตลอดปี 6 งานจัดเก็บข้อมูล จปฐ. 7 งานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 2.2. งานสังคมสงเคราะห์ มีหน้าที่ดังนี้ 1. งานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่ครอบครัวประสบปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ 2. งานสงเคราะห์เด็กกำพร้า อนาถา ไร้ที่พึ่ง เร่ร่อนจรจัด ถูกทอดทิ้ง 3. งานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนที่พิการทางร่างกาย สมองและปัญญา 4. ดูแลระบบสารสนเทศการจัดการฐานข้อมูลเบี้ยยังชีพลำดับที่ 1 5. งานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย 2.3. งานสวัสดิการสังคม มีหน้าที่ดังนี้ 1. งานส่งเสริมสวัสดิการเด็กและเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส ได้แก่การสอดส่อง ดูแล ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมแก่วัย 2. การจัดให้มีและสนับสนุนกิจกรรมศูนย์เยาวชน 3. งานฝึกอบรมเยาวชนในเขตเทศบาล 4. ประสานและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน 5. งานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 2.4 งานกิจการสภาเด็กและเยาวชน มีหน้าที่ดังนี้ 1. จัดตั้งสภาเด็กและเยาวชน 2. ส่งเสริม สนับสนุน และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านวิชาการ และกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษา กีฬา และวัฒนธรรมในท้องถิ่นของเด็กและเยาวชน 3. จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นให้มีความรู้ความสามารถ และจริยธรรม 4. เสนอแนะและให้ความเห็นต่อสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น
บทบาทหน้าที่.

บทบาทหน้าที่ของสภาเทศบาล และคณะเทศมนตรี/นายกเทศมนตรี

มาตรา 49 (พรบ.เทศบาล) ให้สภาเทศบาลตำบลมีสมาชิกสิบสองคน และให้คณะเทศมนตรีประกอบด้วยนายกเทศมนตรีกับเทศมนตรีอื่นอีกสองคน

1) หน้าที่ของสภาเทศบาล 

         สำหรับหน้าที่ของสภาเทศบาลโดยหลักการแล้วมีสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ (1) หน้าที่ในการเลือกฝ่ายบริหาร (2) หน้าที่ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาล (3) หน้าที่ในการออกเทศบัญญัติ และ (4) หน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลฝ่ายบริหาร

สำหรับหน้าที่แรก คือ หน้าที่ในการเลือกตั้งฝ่ายบริหารนั้น สภาเทศบาลจะทำหน้าที่ในการเลือกนายกเทศมนตรี และเทศมนตรีด้วยเสียงข้างมากของสภาเทศบาล ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวนี้จะไม่มีในเทศบาลที่ใช้รูปแบบนายกเทศมนตรี เพราะหน้าที่ดังกล่าวนี้จะถูกกระทำโดยประชาชนในเขตเทศบาลแทน

หน้าที่ในประการที่สอง คือ หน้าที่ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้น เป็นหน้าที่โดยทั่วไปของผู้แทนประชาชนอยู่แล้ว เช่น รับฟังปัญหา ความต้องการ ความเดือดร้อน ตลอดจนข้อร้องเรียนต่าง ๆ ของประชาชนในเทศบาล แล้วนำข้อเรียกร้องเหล่านั้นเสนอต่อฝ่ายบริหารให้ฝ่ายบริหารดำเนินการแก้ไขให้ หรือในบางเรื่องที่สมาชิกสภาเทศบาลสามารถกระทำได้เอง สมาชิกสภาเทศบาลก็จะดำเนินการแก้ไขได้เลย หรือหากในบางเรื่องอยู่เกินขอบเขตอำนาจที่เทศบาลจะดำเนินการได้ สมาชิกสภาเทศบาลก็จะทำหน้าที่ในการประสานไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป การดำเนินการเพื่อให้ฝ่ายบริหารกระทำตามข้อเรียกร้องของตนนั้น อาจกระทำได้ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการ เช่น การทำหนังสือยื่นแสดงปัญหาของประชาชนในเทศบาลผ่านไปยังนายกเทศมนตรี เป็นต้น และรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ เช่น การใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของตนกับผู้มีอำนาจ ร้องขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการให้ เป็นต้น

หน้าที่ในประการที่สาม คือ หน้าที่ในการออกกฎหมายหรือเทศบัญญัติ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่ชัดเจนที่สุดในการทำงานของสภาเทศบาล กล่าวคือ สภาเทศบาลทำหน้าที่เป็นองค์กรทางนิติบัญญัติในเทศบาล ทำหน้าที่ในการพิจารณา กลั่นกรอง และอนุมัติกฎหมายต่าง ๆ ว่าควรบังคับใช้ในเขตเทศบาลหรือไม่ อย่างไร และเมื่อพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้ว สมาชิกสภาเทศบาลจึงจะมีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในร่างเทศบัญญัติเพื่อบังคับใช้เป็นเทศบัญญัติต่อไปหรือไม่ หน้าที่ในประการนี้ถูกกำหนดไว้ในมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ที่กำหนดว่า “เทศบาลมีอำนาจตราเทศบัญญัติโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อบทกฎหมาย…”

และหน้าที่ในประการสุดท้าย คือ หน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหารนั้น สภาเทศบาลมีวิธีการในการตรวจสอบและถ่วงดุลอย่างน้อย 3 วิธีได้แก่

(1) การตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหาร 

เพื่อให้ฝ่ายบริหารตอบกระทู้ที่ตนเห็นว่าเป็นปัญหาและให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อเท็จจริงหรือแนวทางเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ดังมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546

(2) การตรวจสอบการทำงานโดยคณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภาเทศบาล

คณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภาเทศบาล มีหน้าที่หลักในการกระทำกิจการใด ๆ ตามที่สภามอบหมายให้ดำเนินการ เช่น สืบสวน สอบสวนข้อเท็จจริง ศึกษาถึงความเป็นไปได้ หรือลงไปเก็บข้อมูลในพื้นที่เทศบาล เป็นต้น และเมื่อได้ดำเนินการไปเช่นไร กรรมการดังกล่าวต้องรายงานผลการดำเนินงานนั้นให้สภาเทศบาลรับทราบด้วย

การดำเนินงานของคณะกรรมการในลักษณะเช่นนี้ ก็คือ การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารในลักษณะหนึ่งด้วยเช่นกัน เช่น หากสภาเทศบาลไม่เห็นด้วยกับการทำงานของฝ่ายบริหาร สภาเทศบาลอาจจะตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาและพิจารณาว่าในประเด็นดังกล่าว ควรมีแนวทางในการตัดสินใจหรือดำเนินการอย่างไร ตลอดจนสามารถเรียกให้ฝ่ายบริหารมาชี้แจงว่าเหตุใดฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจเช่นนั้น ซึ่งหากฝ่ายบริหารไม่สามารถชี้แจงให้คณะกรรมการดังกล่าวเข้าใจหรือไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างกระจ่างชัดแล้ว ผลเสียย่อมเกิดแก่ตัวผู้บริหารเอง และอาจมีผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

มาตรา 32 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ได้ให้อำนาจแก่สภาเทศบาลไว้โดยกำหนดว่า “สภาเทศบาลมีอำนาจเลือกสมาชิกสภาเทศบาลตั้งเป็นคณะกรรมการสามัญของสภาเทศบาล และมีอำนาจเลือกบุคคลผู้เป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกตั้งเป็นคณะกรรมการวิสามัญของสภาเทศบาล เพื่อกระทำกิจการหรือพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาเรื่องใด ๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาเทศบาล แล้วรายงานต่อสภาเทศบาล”

(3) การเสนอเพื่อให้มีการออกเสียงประชามติในเขตเทศบาล 

การตรวจสอบการทำงานในประการนี้ถูกกำหนดไว้ในมาตรา 32 ทวิ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ว่า “ในกรณีกิจการในเรื่องใดอาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของเทศบาลหรือประชาชนในท้องถิ่น สมาชิกสภาเทศบาลจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่หรือคณะเทศมนตรีอาจเสนอต่อประธานสภาเทศบาลเพื่อให้มีการออกเสียงประชามติในท้องถิ่นได้ และประกาศให้ประชาชนทราบ

การออกเสียงประชามติต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการขอปรึกษาความเห็นของประชาชนว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกิจการสำคัญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามวรรคหนึ่ง…” ซึ่งกฎหมายได้เปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีสิทธิเข้ามาช่วยฝ่ายบริหารตัดสินใจในประเด็นที่สำคัญต่อเทศบาลได้ง่ายขึ้น ซึ่งการให้ความเห็นของประชาชนนี้จะสามารถกระทำได้ก็ต้องได้รับการเสนอจากสมาชิกสภาเทศบาลเสียก่อน

- การรับฟังการแถลงนโยบายโดยไม่มีการลงมติ และ ผลการดำเนินงานของนายกเทศมนตรี การตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหารวิธีการหนึ่งก็คือ การฟังการแถลงนโยบายและผลการดำเนินงานของนายกเทศมนตรี ซึ่งวิธีการดังกล่าวแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของฝ่ายบริหารมากนัก แต่ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่แสดงให้เห็นได้ว่าฝ่ายบริหารต้องทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบของสภาเทศบาลซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนในเขตเทศบาล ตามมาตรา 48 ทศ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546 กำหนดไว้ว่า ก่อนนายกเทศมนตรีเข้ารับหน้าที่ ให้ประธานสภาเทศบาลเรียกประชุมสภาเทศบาลเพื่อให้นายกเทศมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาล โดยไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และให้นายกเทศมนตรีจัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภาเทศบาลเป็นประจำทุกปี

- การขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ (เฉพาะเทศบาลในรูปแบบนายกเทศมนตรี) ในเรื่องการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ กฎหมายได้กำหนดรายละเอียดไว้ในมาตรา 48 ทวาทศ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ให้สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมสภาเทศบาลเพื่อให้นายกเทศมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในปัญหาอันเกี่ยวกับการบริหารราชการเทศบาลโดยไม่มีการลงมติ

2) หน้าที่ของนายกเทศมนตรี และรองนายกเทศมนตรี 

ตามกฎหมายได้กำหนดหน้าที่ของนายกเทศมนตรี (มาตรา 48 เตรส แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543) ดังนี้

(1) กำหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและรับผิดชอบในการบริหารราชการของเทศบาล 

(2) ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เทศบัญญัติและนโยบาย 

(3) สั่ง อนุญาต และอนุมัติเกี่ยวกับราชการของเทศบาล 

(4) แต่งตั้งและถอดถอนรองนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และเลขานุการนายกเทศมนตรี 

(5) วางระเบียบเพื่อให้งานของเทศบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

(6) รักษาการให้เป็นไปตามเทศบัญญัติ 

(7) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่น 

ลักษณะการใช้อำนาจของนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงนี้แตกต่างจากการใช้อำนาจของนายกเทศมนตรีในรูปแบบคณะเทศมนตรีในสมัยก่อน กล่าวคือ นายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงมีลักษณะการใช้อำนาจที่เด็ดขาดกว่า และเป็นผู้ใช้อำนาจแต่เพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจร่วมกับรองนายกเทศมนตรี ซึ่งสามารถสร้าง “ภาวะผู้นำ” ให้แก่นายกเทศมนตรีได้มากกว่านายกเทศมนตรีในรูปแบบคณะเทศมนตรี ที่นายกเทศมนตรีมาจากการเลือกของสภาเทศบาล 

 

บทบาทหน้าที่,

อำนาจหน้าที่ของเทศบาลและการบริหารงานสภาเทศบาล

        เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการที่จะให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของราชการเพื่อที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง   อันเป็นการส่งเสริมให้มีความเป็นรัฐบาลโดยประชาชนมากยิ่งขึ้น  จึงสมควรประกาศโครงสร้างและการจัดหน่วยงาน อำนาจหน้าที่วิธีการดำเนินงานและสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารของเทศบาลท่าขนอน  ดังต่อไปนี้

       ข้อ 1. เทศบาลตำบลท่าขนอน   มีหน้าที่ต้องทำในเขตเทศบาล ดังต่อไปนี้

1.1 รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน

1.2 ให้มีและบำรุงทางบกและทางน้ำ

1.3 รักษาความสะอาดของถนน    หรือทางเดินและที่สาธารณะรวมทั้งการกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล

1.4 ป้องกันและระงับโรคติดต่อ

1.5 ให้มีเครื่องใช้ในการดับเพลิง

1.6 ให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรม

1.7 ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็กเยาวชน  ผู้สูงอายุและผู้พิการ 

1.8 บำรุงศิลปจารีตประเพณีภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น

1.9 หน้าที่อื่น ๆ  ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล

นอกจากนี้เทศบาลตำบลท่าขนอน อาจจัดทำกิจการใด ๆ  ในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย ดังนี้

   (1)  ให้มีน้ำสะอาดหรือการประปา

   (2)  ให้มีโรงฆ่าสัตว์

   (3)  ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือและท่าข้าม

   (4)  ให้มีสุสานและฌาปนสถาน

   (5)  บำรุงและส่งเสริมการทำมาหากินของราษฎร

   (6)  ให้มีและบำรุงสถานที่ทำการพิทักษ์รักษาคนเจ็บไข้

   (7)  ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น

   (8)  ให้มีและบำรุงทางระบายน้ำ

   (9)  เทศพาณิชย์ 

         ข้อ 2. เทศบาลตำบลท่าขนอน  มีโครงสร้างการบริหารงาน ดังต่อไปนี้

2.1 สภาเทศบาลตำบลท่าขนอน   ประกอบด้วย  ประธานสภาเทศบาล  รองประธานสภาเทศบาล  เลขานุการสภาเทศบาล  และสมาชิกสภาเทศบาล

2.2 คณะเทศมนตรี  ประกอบด้วย  นายกเทศมนตรี  กับเทศมนตรีอื่นอีกสองคน

2.3 พนักงานเทศบาล มีปลัดเทศบาลเป็นผู้บังคับบัญชา (ดูแผนผังโครงสร้างและเอกสารแนบท้าย)

       ข้อ 3. อำนาจหน้าที่ที่สำคัญของสภาเทศบาลตำบลท่าขนอน  และคณะเทศมนตรีตำบลท่าขนอน  โดยสรุป  ดังต่อไปนี้

3.1 อำนาจหน้าที่ของสภาเทศบาลตำบลท่าขนอน

3.1.1  พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติ

3.1.2 ควบคุมการปฏิบัติงานของคณะเทศมนตรี ให้เป็นไปตามนโยบายและแผน  พัฒนาเทศบาล

3.1.3 ควบคุมการปฏิบัติงานของคณะเทศมนตรี ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย                                                                                                       

3.2 อำนาจหน้าที่ของคณะเทศมนตรีตำบลท่าขนอน 

3.2.1 รับผิดชอบงานนโยบายหรืองานอื่นใดที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งระบุไว้ให้เป็นหน้าที่ของคณะเทศมนตรีโดยเฉพาะ

3.2.2 ในการปฏิบัติงานของเทศบาลเกี่ยวกับการวินิจฉัยปัญหาและสั่งการให้ใช้หลักการแบ่งอำนาจและหน้าที่ ตามลักษณะของเรื่อง ดังต่อไปนี้

           ก.  นายกเทศมนตรี

          (1)  ในเรื่องเกี่ยวกับสภาเทศบาล หรือสมาชิกสภาเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยการเทศบาล

          (2)  เรื่องที่จะต้องรายงานต่ออำเภอ หรือจังหวัด หรือกระทรวงมหาดไทย แล้วแต่กรณี

          (3)  เรื่องที่กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับระบุไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะเทศมนตรี

          (4)  เรื่องเกี่ยวกับการออกเทศบัญญัติ หรือยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติม เทศบัญญัติที่มีอยู่แล้ว

          (5)  เรื่องที่ดำริขึ้นใหม่ซึ่งอาจจะต้องมีโครงการหรือแผนการหรือระเบียบการขึ้นใหม่

          (6)  เรื่องซึ่งปลัดเทศบาลเห็นเป็นปัญหาหรือเป็นกรณีพิเศษที่ควรได้รับการวินิจฉัยจากนายกเทศมนตรี

           (7)  เรื่องซึ่งนายกเทศมนตรีมีอำนาจสั่งการโดยเฉพาะ

           (8)  เรื่องที่ปลัดเทศบาลเห็นสมควรเสนอเพื่อทราบ

         ข.  รองนายกเทศมนตรี

         (1) เรื่องที่รองนายกเทศมนตรีหรือนายกเทศมนตรี มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในงานประเภทใดโดยเฉพาะ

         (2)  เรื่องที่จะต้องรายงานต่อนายกเทศมนตรี

         (3)  เรื่องที่กฎหมาย  หรือระเบียบข้อบังคับระบุไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของรองนายกเทศมนตรี

ข้อ 4.  การบริหารกิจการของเทศบาล  ให้ทำในนามของนายกเทศมนตรี  ถ้านายกเทศมนตรี  ไม่อาจบริหารกิจการได้  ให้นายกเทศมนตรีทำคำสั่งตั้งรองนายกเทศมนตรีให้ทำการแทน   

         เทศบาลตำบลท่าขนอน   มีพนักงานเทศบาล   โดยมีปลัดเทศบาลเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานประจำ ตลอดจนคนงานหรือลูกจ้าง และรับผิดชอบในงานประจำทั่วไปของเทศบาลโดยแบ่งการบริหารงานเป็นส่วนราชการ  ดังต่อไปนี้

1. สำนักปลัดเทศบาล

2. กองคลัง

3. กองช่าง

4. กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม

5. กองการศึกษา

ภารกิจขององค์กร

 ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496     (แก้ไขเพิ่มเติมจนฉบับที่  11  พ.ศ. 2543) มาตรา 50 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย  เทศบาลตำบลมีหน้าที่ต้องทำในเขตเทศบาล  ดังต่อไปนี้

1. รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน

2. ให้มีการบำรุงทางบกและทางน้ำ

3. รักษาความสะอาดของถนนหรือทางเดินและที่สาธารณะ  รวมทั้งการกำจัดมูลฝอยและ  สิ่งปฏิกูล

4. ป้องกันและระงับโรคติดต่อ

5. ให้มีเครื่องใช้ในการดับเพลิง

6. ให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรม

7. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ

8. บำรุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น  และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น 

9. หน้าที่อื่นตามกฎหมายบัญญัติ ให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล

มาตรา  51  ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย  เทศบาลตำบลอาจจัดทำกิจการใด ๆ ในเขตเทศบาล  ดังต่อไปนี้

1. ให้มีน้ำสะอาดหรือการประปา

2. ให้มีโรงฆ่าสัตว์

3. ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม

4. ให้มีสุสานและฌาปนสถาน

5. บำรุงและส่งเสริมการทำมาหากินของราษฎร

6. ให้มีและบำรุงสถานที่ทำการพิทักษ์รักษาคนเจ็บไข้

7. ให้มีการบำรุงการไฟฟ้า หรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น

8. ให้มีและบำรุงทางระบายน้ำ

9. เทศพาณิชย์

บทบาทหน้าที่.
บทบาทหน้าที่ของสภาเทศบาล และคณะเทศมนตรี/นายกเทศมนตรี มาตรา 49 (พรบ.เทศบาล) ให้สภาเทศบาลตำบลมีสมาชิกสิบสองคน และให้คณะเทศมนตรีประกอบด้วยนายกเทศมนตรีกับเทศมนตรีอื่นอีกสองคน 1) หน้าที่ของสภาเทศบาล สำหรับหน้าที่ของสภาเทศบาลโดยหลักการแล้วมีสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ (1) หน้าที่ในการเลือกฝ่ายบริหาร (2) หน้าที่ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในเขตเทศบาล (3) หน้าที่ในการออกเทศบัญญัติ และ (4) หน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลฝ่ายบริหาร สำหรับหน้าที่แรก คือ หน้าที่ในการเลือกตั้งฝ่ายบริหารนั้น สภาเทศบาลจะทำหน้าที่ในการเลือกนายกเทศมนตรี และเทศมนตรีด้วยเสียงข้างมากของสภาเทศบาล ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวนี้จะไม่มีในเทศบาลที่ใช้รูปแบบนายกเทศมนตรี เพราะหน้าที่ดังกล่าวนี้จะถูกกระทำโดยประชาชนในเขตเทศบาลแทน หน้าที่ในประการที่สอง คือ หน้าที่ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้น เป็นหน้าที่โดยทั่วไปของผู้แทนประชาชนอยู่แล้ว เช่น รับฟังปัญหา ความต้องการ ความเดือดร้อน ตลอดจนข้อร้องเรียนต่าง ๆ ของประชาชนในเทศบาล แล้วนำข้อเรียกร้องเหล่านั้นเสนอต่อฝ่ายบริหารให้ฝ่ายบริหารดำเนินการแก้ไขให้ หรือในบางเรื่องที่สมาชิกสภาเทศบาลสามารถกระทำได้เอง สมาชิกสภาเทศบาลก็จะดำเนินการแก้ไขได้เลย หรือหากในบางเรื่องอยู่เกินขอบเขตอำนาจที่เทศบาลจะดำเนินการได้ สมาชิกสภาเทศบาลก็จะทำหน้าที่ในการประสานไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป การดำเนินการเพื่อให้ฝ่ายบริหารกระทำตามข้อเรียกร้องของตนนั้น อาจกระทำได้ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการ เช่น การทำหนังสือยื่นแสดงปัญหาของประชาชนในเทศบาลผ่านไปยังนายกเทศมนตรี เป็นต้น และรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ เช่น การใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของตนกับผู้มีอำนาจ ร้องขอให้ผู้มีอำนาจดำเนินการให้ เป็นต้น หน้าที่ในประการที่สาม คือ หน้าที่ในการออกกฎหมายหรือเทศบัญญัติ หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่ชัดเจนที่สุดในการทำงานของสภาเทศบาล กล่าวคือ สภาเทศบาลทำหน้าที่เป็นองค์กรทางนิติบัญญัติในเทศบาล ทำหน้าที่ในการพิจารณา กลั่นกรอง และอนุมัติกฎหมายต่าง ๆ ว่าควรบังคับใช้ในเขตเทศบาลหรือไม่ อย่างไร และเมื่อพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้ว สมาชิกสภาเทศบาลจึงจะมีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในร่างเทศบัญญัติเพื่อบังคับใช้เป็นเทศบัญญัติต่อไปหรือไม่ หน้าที่ในประการนี้ถูกกำหนดไว้ในมาตรา 60 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ที่กำหนดว่า “เทศบาลมีอำนาจตราเทศบัญญัติโดยไม่ขัดหรือแย้งต่อบทกฎหมาย…” และหน้าที่ในประการสุดท้าย คือ หน้าที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหารนั้น สภาเทศบาลมีวิธีการในการตรวจสอบและถ่วงดุลอย่างน้อย 3 วิธีได้แก่ (1) การตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหาร เพื่อให้ฝ่ายบริหารตอบกระทู้ที่ตนเห็นว่าเป็นปัญหาและให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อเท็จจริงหรือแนวทางเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ดังมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546 (2) การตรวจสอบการทำงานโดยคณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภาเทศบาล คณะกรรมการสามัญและวิสามัญของสภาเทศบาล มีหน้าที่หลักในการกระทำกิจการใด ๆ ตามที่สภามอบหมายให้ดำเนินการ เช่น สืบสวน สอบสวนข้อเท็จจริง ศึกษาถึงความเป็นไปได้ หรือลงไปเก็บข้อมูลในพื้นที่เทศบาล เป็นต้น และเมื่อได้ดำเนินการไปเช่นไร กรรมการดังกล่าวต้องรายงานผลการดำเนินงานนั้นให้สภาเทศบาลรับทราบด้วย การดำเนินงานของคณะกรรมการในลักษณะเช่นนี้ ก็คือ การตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารในลักษณะหนึ่งด้วยเช่นกัน เช่น หากสภาเทศบาลไม่เห็นด้วยกับการทำงานของฝ่ายบริหาร สภาเทศบาลอาจจะตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาและพิจารณาว่าในประเด็นดังกล่าว ควรมีแนวทางในการตัดสินใจหรือดำเนินการอย่างไร ตลอดจนสามารถเรียกให้ฝ่ายบริหารมาชี้แจงว่าเหตุใดฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจเช่นนั้น ซึ่งหากฝ่ายบริหารไม่สามารถชี้แจงให้คณะกรรมการดังกล่าวเข้าใจหรือไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างกระจ่างชัดแล้ว ผลเสียย่อมเกิดแก่ตัวผู้บริหารเอง และอาจมีผลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป มาตรา 32 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ได้ให้อำนาจแก่สภาเทศบาลไว้โดยกำหนดว่า “สภาเทศบาลมีอำนาจเลือกสมาชิกสภาเทศบาลตั้งเป็นคณะกรรมการสามัญของสภาเทศบาล และมีอำนาจเลือกบุคคลผู้เป็นหรือมิได้เป็นสมาชิกตั้งเป็นคณะกรรมการวิสามัญของสภาเทศบาล เพื่อกระทำกิจการหรือพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาเรื่องใด ๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาเทศบาล แล้วรายงานต่อสภาเทศบาล” (3) การเสนอเพื่อให้มีการออกเสียงประชามติในเขตเทศบาล การตรวจสอบการทำงานในประการนี้ถูกกำหนดไว้ในมาตรา 32 ทวิ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ว่า “ในกรณีกิจการในเรื่องใดอาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของเทศบาลหรือประชาชนในท้องถิ่น สมาชิกสภาเทศบาลจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่หรือคณะเทศมนตรีอาจเสนอต่อประธานสภาเทศบาลเพื่อให้มีการออกเสียงประชามติในท้องถิ่นได้ และประกาศให้ประชาชนทราบ การออกเสียงประชามติต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการขอปรึกษาความเห็นของประชาชนว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกิจการสำคัญในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามวรรคหนึ่ง…” ซึ่งกฎหมายได้เปิดโอกาสให้ประชาชนในท้องถิ่นมีสิทธิเข้ามาช่วยฝ่ายบริหารตัดสินใจในประเด็นที่สำคัญต่อเทศบาลได้ง่ายขึ้น ซึ่งการให้ความเห็นของประชาชนนี้จะสามารถกระทำได้ก็ต้องได้รับการเสนอจากสมาชิกสภาเทศบาลเสียก่อน - การรับฟังการแถลงนโยบายโดยไม่มีการลงมติ และ ผลการดำเนินงานของนายกเทศมนตรี การตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหารวิธีการหนึ่งก็คือ การฟังการแถลงนโยบายและผลการดำเนินงานของนายกเทศมนตรี ซึ่งวิธีการดังกล่าวแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของฝ่ายบริหารมากนัก แต่ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่แสดงให้เห็นได้ว่าฝ่ายบริหารต้องทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบของสภาเทศบาลซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนในเขตเทศบาล ตามมาตรา 48 ทศ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2546 กำหนดไว้ว่า ก่อนนายกเทศมนตรีเข้ารับหน้าที่ ให้ประธานสภาเทศบาลเรียกประชุมสภาเทศบาลเพื่อให้นายกเทศมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาล โดยไม่มีการลงมติ ทั้งนี้ ภายใน 30 วันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และให้นายกเทศมนตรีจัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภาเทศบาลเป็นประจำทุกปี - การขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ (เฉพาะเทศบาลในรูปแบบนายกเทศมนตรี) ในเรื่องการขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ กฎหมายได้กำหนดรายละเอียดไว้ในมาตรา 48 ทวาทศ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 ให้สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมสภาเทศบาลเพื่อให้นายกเทศมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในปัญหาอันเกี่ยวกับการบริหารราชการเทศบาลโดยไม่มีการลงมติ 2) หน้าที่ของนายกเทศมนตรี และรองนายกเทศมนตรี ตามกฎหมายได้กำหนดหน้าที่ของนายกเทศมนตรี (มาตรา 48 เตรส แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543) ดังนี้ (1) กำหนดนโยบายโดยไม่ขัดต่อกฎหมายและรับผิดชอบในการบริหารราชการของเทศบาล (2) ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ เทศบัญญัติและนโยบาย (3) สั่ง อนุญาต และอนุมัติเกี่ยวกับราชการของเทศบาล (4) แต่งตั้งและถอดถอนรองนายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี และเลขานุการนายกเทศมนตรี (5) วางระเบียบเพื่อให้งานของเทศบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย (6) รักษาการให้เป็นไปตามเทศบัญญัติ (7) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่น ลักษณะการใช้อำนาจของนายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงนี้แตกต่างจากการใช้อำนาจของนายกเทศมนตรีในรูปแบบคณะเทศมนตรีในสมัยก่อน กล่าวคือ นายกเทศมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงมีลักษณะการใช้อำนาจที่เด็ดขาดกว่า และเป็นผู้ใช้อำนาจแต่เพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจร่วมกับรองนายกเทศมนตรี ซึ่งสามารถสร้าง “ภาวะผู้นำ” ให้แก่นายกเทศมนตรีได้มากกว่านายกเทศมนตรีในรูปแบบคณะเทศมนตรี ที่นายกเทศมนตรีมาจากการเลือกของสภาเทศบาล
บทบาทหน้าที่
อำนาจหน้าที่ของเทศบาลและการบริหารงานสภาเทศบาล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการที่จะให้ประชาชนได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของราชการเพื่อที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง อันเป็นการส่งเสริมให้มีความเป็นรัฐบาลโดยประชาชนมากยิ่งขึ้น จึงสมควรประกาศโครงสร้างและการจัดหน่วยงาน อำนาจหน้าที่วิธีการดำเนินงานและสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารของเทศบาลท่าขนอน ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. เทศบาลตำบลท่าขนอน มีหน้าที่ต้องทำในเขตเทศบาล ดังต่อไปนี้ 1.1 รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน 1.2 ให้มีและบำรุงทางบกและทางน้ำ 1.3 รักษาความสะอาดของถนน หรือทางเดินและที่สาธารณะรวมทั้งการกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล 1.4 ป้องกันและระงับโรคติดต่อ 1.5 ให้มีเครื่องใช้ในการดับเพลิง 1.6 ให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรม 1.7 ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุและผู้พิการ 1.8 บำรุงศิลปจารีตประเพณีภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น 1.9 หน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล นอกจากนี้เทศบาลตำบลท่าขนอน อาจจัดทำกิจการใด ๆ ในเขตเทศบาลตำบลท่าขนอน ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย ดังนี้ (1) ให้มีน้ำสะอาดหรือการประปา (2) ให้มีโรงฆ่าสัตว์ (3) ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือและท่าข้าม (4) ให้มีสุสานและฌาปนสถาน (5) บำรุงและส่งเสริมการทำมาหากินของราษฎร (6) ให้มีและบำรุงสถานที่ทำการพิทักษ์รักษาคนเจ็บไข้ (7) ให้มีและบำรุงการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น (8) ให้มีและบำรุงทางระบายน้ำ (9) เทศพาณิชย์ ข้อ 2. เทศบาลตำบลท่าขนอน มีโครงสร้างการบริหารงาน ดังต่อไปนี้ 2.1 สภาเทศบาลตำบลท่าขนอน ประกอบด้วย ประธานสภาเทศบาล รองประธานสภาเทศบาล เลขานุการสภาเทศบาล และสมาชิกสภาเทศบาล 2.2 คณะเทศมนตรี ประกอบด้วย นายกเทศมนตรี กับเทศมนตรีอื่นอีกสองคน 2.3 พนักงานเทศบาล มีปลัดเทศบาลเป็นผู้บังคับบัญชา (ดูแผนผังโครงสร้างและเอกสารแนบท้าย) ข้อ 3. อำนาจหน้าที่ที่สำคัญของสภาเทศบาลตำบลท่าขนอน และคณะเทศมนตรีตำบลท่าขนอน โดยสรุป ดังต่อไปนี้ 3.1 อำนาจหน้าที่ของสภาเทศบาลตำบลท่าขนอน 3.1.1 พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่างเทศบัญญัติ 3.1.2 ควบคุมการปฏิบัติงานของคณะเทศมนตรี ให้เป็นไปตามนโยบายและแผน พัฒนาเทศบาล 3.1.3 ควบคุมการปฏิบัติงานของคณะเทศมนตรี ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย 3.2 อำนาจหน้าที่ของคณะเทศมนตรีตำบลท่าขนอน 3.2.1 รับผิดชอบงานนโยบายหรืองานอื่นใดที่กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งระบุไว้ให้เป็นหน้าที่ของคณะเทศมนตรีโดยเฉพาะ 3.2.2 ในการปฏิบัติงานของเทศบาลเกี่ยวกับการวินิจฉัยปัญหาและสั่งการให้ใช้หลักการแบ่งอำนาจและหน้าที่ ตามลักษณะของเรื่อง ดังต่อไปนี้ ก. นายกเทศมนตรี (1) ในเรื่องเกี่ยวกับสภาเทศบาล หรือสมาชิกสภาเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยการเทศบาล (2) เรื่องที่จะต้องรายงานต่ออำเภอ หรือจังหวัด หรือกระทรวงมหาดไทย แล้วแต่กรณี (3) เรื่องที่กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับระบุไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะเทศมนตรี (4) เรื่องเกี่ยวกับการออกเทศบัญญัติ หรือยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติม เทศบัญญัติที่มีอยู่แล้ว (5) เรื่องที่ดำริขึ้นใหม่ซึ่งอาจจะต้องมีโครงการหรือแผนการหรือระเบียบการขึ้นใหม่ (6) เรื่องซึ่งปลัดเทศบาลเห็นเป็นปัญหาหรือเป็นกรณีพิเศษที่ควรได้รับการวินิจฉัยจากนายกเทศมนตรี (7) เรื่องซึ่งนายกเทศมนตรีมีอำนาจสั่งการโดยเฉพาะ (8) เรื่องที่ปลัดเทศบาลเห็นสมควรเสนอเพื่อทราบ ข. รองนายกเทศมนตรี (1) เรื่องที่รองนายกเทศมนตรีหรือนายกเทศมนตรี มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในงานประเภทใดโดยเฉพาะ (2) เรื่องที่จะต้องรายงานต่อนายกเทศมนตรี (3) เรื่องที่กฎหมาย หรือระเบียบข้อบังคับระบุไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของรองนายกเทศมนตรี ข้อ 4. การบริหารกิจการของเทศบาล ให้ทำในนามของนายกเทศมนตรี ถ้านายกเทศมนตรี ไม่อาจบริหารกิจการได้ ให้นายกเทศมนตรีทำคำสั่งตั้งรองนายกเทศมนตรีให้ทำการแทน เทศบาลตำบลท่าขนอน มีพนักงานเทศบาล โดยมีปลัดเทศบาลเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานประจำ ตลอดจนคนงานหรือลูกจ้าง และรับผิดชอบในงานประจำทั่วไปของเทศบาลโดยแบ่งการบริหารงานเป็นส่วนราชการ ดังต่อไปนี้ 1. สำนักปลัดเทศบาล 2. กองคลัง 3. กองช่าง 4. กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 5. กองการศึกษา ภารกิจขององค์กร ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 (แก้ไขเพิ่มเติมจนฉบับที่ 11 พ.ศ. 2543) มาตรา 50 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย เทศบาลตำบลมีหน้าที่ต้องทำในเขตเทศบาล ดังต่อไปนี้ 1. รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน 2. ให้มีการบำรุงทางบกและทางน้ำ 3. รักษาความสะอาดของถนนหรือทางเดินและที่สาธารณะ รวมทั้งการกำจัดมูลฝอยและ สิ่งปฏิกูล 4. ป้องกันและระงับโรคติดต่อ 5. ให้มีเครื่องใช้ในการดับเพลิง 6. ให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรม 7. ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ 8. บำรุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น 9. หน้าที่อื่นตามกฎหมายบัญญัติ ให้เป็นหน้าที่ของเทศบาล มาตรา 51 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย เทศบาลตำบลอาจจัดทำกิจการใด ๆ ในเขตเทศบาล ดังต่อไปนี้ 1. ให้มีน้ำสะอาดหรือการประปา 2. ให้มีโรงฆ่าสัตว์ 3. ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม 4. ให้มีสุสานและฌาปนสถาน 5. บำรุงและส่งเสริมการทำมาหากินของราษฎร 6. ให้มีและบำรุงสถานที่ทำการพิทักษ์รักษาคนเจ็บไข้ 7. ให้มีการบำรุงการไฟฟ้า หรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น 8. ให้มีและบำรุงทางระบายน้ำ 9. เทศพาณิชย์